Page 10 - แนวทางการผ่าตัดเจาะคอผู้ป่วย covid-19
P. 10

7


               กว้าง  ก็อาจท าให้ลมที่รั่วออกมาเซาะเข้าไปในช่องอก  ในผู้ป่วยเด็ก  เยื่อหุ้มปอดอาจจะลอยสูงขึ้นมาบริเวณท ี่

               เจาะคอได้ การฉีกขาดของเยื่อหุ้มปอด ท าให้เกิดปัญหาลมรั่วเข้าเยื่อหุ้มปอดตามมาได้

                       3.การที่ไม่สามารถเจาะคอได้ส าเร็จ  ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจอุดกั้นฉุกเฉิน  และมีความจ าเป็นที่

               จะต้องได้รับการเจาะคออย่างเร่งด่วนโดยใช้ยาชาเฉพาะที่จะกระสับกระส่าย  ไม่อยู่นิ่ง  หลอดลมคอจะมีการ

               เคลื่อนไหวขึ้นลงตลอดเวลาตามจังหวะการหายใจที่แรงและเร็ว  อาจท าให้การเจาะคอส าเร็จได้ยาก  ประกอบ

               กับแรงกดเบียดจากเครื่องมือลงไปบนล าคอผู้ป่วย  จะทาให้ผู้ป่วยมีความทุกข์ทรมานเพิ่มขึ้น  การควบคุม

               ทางเดินหายใจของผู้ป่วยในกรณีเช่นนี้ อาจท าได้ไม่ง่าย ในเวลาอันจ ากัด และผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตได้

                       4.ท่อหลอดลมคอหลุด  และท่อหลอดลมคอไม่อยู่ในต าแหน่งที่เหมาะสม  ผิวหนังและเนื้อเยื่อไขมัน


               บริเวณล าคอของผู้ป่วยที่หนา,  การเคลื่อนไหวของศีรษะไปมา,  ท่อที่มีขนาดสั้นเกินไป  และการผูกสายรัดท่อ

                                                                                        ั
               หลอดลมคอที่ไม่แน่นพอ  จะท าให้เกิดการเลื่อนหลุดของท่อจากหลอดลมได้  ซึ่งอาจมีอนตรายถึงชีวิต  ท่อที่มี
               ขนาดยาวเกินไป  เมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่ากมศีรษะ  หลอดลมมีการหย่อนตัวเต็มที่  ปลายของท่ออาจอยู่ในหลอดลม
                                               ้
               ข้างเดียวได้

                       5.ทางเชื่อมต่อระหว่างหลอดลมคอ  และหลอดอาหาร  การลงมีดบนหลอดลมคอ  ที่ขาดความ

               ระมัดระวัง  โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็ก  ซึ่งมีขนาดของหลอดลมคอ  เล็กมาก  ๆ  อาจเกิดการบาดเจ็บต่อผนัง

               หลอดลมคอด้านหลัง และทะลุไปยังหลอดอาหารได้

                       6.ภาวะน้ าท่วมปอด  (pulmonary  edema)  การบรรเทาปัญหาทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง  ด้วยการ

               เจาะคอ อาจท าให้ความดันภายในหลอดลมที่เคยสูงอยู่เป็นระยะเวลานาน ลดลงอย่างรวดเร็ว และมีการรั่วของ

               ของเหลวจากเส้นเลือด ผ่านผนังของถุงลมในปอด เข้ามาในหลอดลมจนเกิดน้ าท่วมปอดได้

                       การดูแลหลังผ่าตัด

                                                                                              ื่
                       1. การถ่ายภาพเอกซ์เรย์ปอด เพื่อดูต าแหน่งของปลายท่อ และดูว่ามีภาวะแทรกซ้อนอนๆ ที่เกิดจาก
                                      ็
               การเจาะคอ เช่น ลมรั่วเข้าเยื่อหุ้มปอดหรือไม่

                       2.  การให้ความชื้นที่เพียงพอ  อากาศที่หายใจผ่านท่อเจาะคอ  จะแห้ง  ขาดความชุ่มชื้น  ขาดการปรับ

               อุณหภูมิ  และ  ขาดการกรองดักฝุ่นละออง  โดยโพรงจมูก  การให้อากาศที่ชื้นผ่านทางรูเจาะคอจะช่วยป้องกัน


               ไม่ให้เยื่อบุหลอดลมคอแห้ง เกิดสะเก็ด และเสมหะเหนียว และแห้งมาอุดตันท่อหลอดลมคอ
                       3.  การดูดเสมหะที่เพียงพอ  อากาศทแห้ง  รวมทั้งการระคายเคืองเยื่อบุหลอดลมคอ  เนื่องจาก  ท่อ
                                                      ี่

                                                 ิ่
               หลอดลมคอ  ท าให้ปริมาณของเสมหะเพมขึ้น  ประกอบกับผู้ป่วยที่มีท่อหลอดลมคอไม่สามารถไอขับเสมหะได้
               อย่างมีประสิทธิภาพ  การดูดเสมหะที่เพียงพอ  จะท าให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น  นอกจากนั้นควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยไอ

               บ่อยๆ
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15