Page 16 - ซอลาฮุดดีน วีรบุรุษแห่งสงครามศักดิ์สิทธิ์
P. 16
เยรูซาเลมในปี ค.ศ. 71 จนท�าให้ดินแดนอิสราเอลกลายเป็นเพียงเขต
การปกครองส่วนหนึ่งของจักรวรรดิและไม่อาจหวนกลับมาเป็นรัฐอิสระ
ได้อีกเลยนับตั้งแต่นั้น
ื
อย่างไรก็ตาม คร้นเม่อจักรวรรดิโรมันหันมายอมรับคริสต์ศาสนา
ั
ในรัชสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินมหาราชแล้ว ดินแดนแห่งนี้จึงได้กลับ
�
ั
ิ
ิ
มามีความสาคัญอีกคร้งในฐานะ “แผ่นดินศักด์สิทธ์” ของคริสต์ศาสนา
และผลพวงจากการท่ราชสานักโรมันได้สถาปนาเมืองหลวงใหม่ข้นท่ฝั่ง
ี
ึ
ี
�
ตะวันออก ณ กรุงคอนสแตนติโนเปิลด้วยแล้ว นอกจากจะทาให้จักรวรรด ิ
�
โรมันฝั่งตะวันออกกลายเป็นดินแดนท่มีความม่งค่งทางเศรษฐกิจมาก
ี
ั
ั
กว่าจักรวรรดิฝั่งตะวันตกแล้ว ยังส่งผลให้จักรวรรดิตะวันออกกลายเป็น
ดินแดนมีความส�าคัญทางศาสนามากกว่าฝั่งตะวันตกด้วยเช่นกัน
�
เพราะว่าบรรดานครสาคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเยรูซาเลม
อันติโอค ดามัสกัส หรือแม้แต่นครอเล็กซานเดรียในอียิปต์ ที่เป็นเมือง
�
ต้นกาเนิดและเมืองสาคัญของคริสต์ศาสนาก็ล้วนแต่อยู่ในฝั่งตะวันออก
�
ทั้งหมด
ิ
ี
เพราะเหตุน้สถานะของจักรวรรดิฝั่งตะวันออกจึงเร่มมีความ
ส�าคัญเหนือกว่าจักรวรรดิฝั่งตะวันตก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การเมือง และ
ศาสนาไปโดยปริยาย และเมื่อจักรวรรดิโรมันฝั่งตะวันตกถึงกาลล่มสลาย
1
ลงในปี ค.ศ. 480 แล้ว จักรวรรดิโรมันตะวันออก ก็ยังด�ารงความเกรียง
ไกรของจักรวรรดิโรมันสืบต่อมาได้อีกนับพันปี โดยที่ดินแดนปาเลสไตน์
ื
ยังคงเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาของคริสต์ศาสนาและศาสนายูดาห์เร่อย
1 ต่อมาจะถูกเรียกในชื่อว่า “จักรวรรดิไบแซนไทน์” (Byzantine Empire) เพื่อเป็นการ
แยกแยะออกจากจักรวรรดิโรมันเดิมในฝั่งตะวันตกนั่นเอง
16
ิ
จุดเร่มต้น

