Page 45 - 08012020.indd
P. 45
38
ความเร็วต้นเพิ่มขึ้นถึง7ไมล์ต่อวินาทีจะได้วงโคจรที่เรียกว่า พาราโบลา ถ้ามีความเร็ว
มากกว่า 7 ไมล์ต่อวินาที วงโคจรจะเป็นแบบ ไฮเพอร์โบลา ความเร็ว 7 ไมล์ต่อวินาทีที่
ท�าให้วัตถุหลุดออกไปจากโลก เรียกว่า ความเร็วหลุดพ้น (Escape Velocity)
ดาวเทียมโคจรรอบโลกได้เพราะมีแรง 2 แรงที่สมดุลกันพอดี คือ ในขณะที่
ดาวเทียมเคลื่อนที่เป็นทางโค้ง จะมีแรงสู่ศูนย์กลาง (Centripetal Force) และ แรงหนี
ศูนย์กลาง (Centrifugal Force) เกิดขึ้น
1. แรงสู่ศูนย์กลาง เป็นแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นระหว่างโลกกับดาวเทียม ตาม
กฎแห่งความโน้มถ่วงของกฎนิวตันที่กล่าวไว้ว่า “แรงดึงดูดระหว่างวัตถุที่มีมวลสาร 2 ชิ้น
จะเป็นปฏิภาคโดยตรงกับผลคูณของมวลทั้งสอง และเป็นปฏิภาคกลับกับก�าลังสองของ
ระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสอง”
2. แรงหนีศูนย์กลาง เกิดจากวัตถุเคลื่อนที่เป็นทางโค้งหรือเป็นวงกลมถ้า
หากดาวเทียมโคจรอยู่ห่างจากโลกมากๆความเร็วของดาวเทียมก็จะลดลงด้วย ความเร็ว
ที่ต้องการเพื่อให้ดาวเทียมขึ้นไปโคจรตามระยะห่างที่ต้องการนั้นเรียกว่าความเร็วตามวง
ทางโคจร (Orbital V elocity)
ดาวเทียมที่โคจรอยู่ห่างจากโลกมากเท่าไรก็จะเสียเวลาในการโคจรรอบ
โลกมากขึ้น เพราะความเร็วของดาวเทียมลดลง และระยะทางในการโคจรเพิ่มมากขึ้น
5.3 ขั้นตอนก�รส่งด�วเทียมไทยคม 5 ไปยังอวก�ศ
หลังจากบรรจุดาวเทียมลงในจรวด จรวดจะส่งไปที่ฐานยิงที่ก�าหนดไว้
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว จรวดจะถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้าผ่านชั้นบรรยาบาศและเข้าสู่ห้วงอวกาศ
ขณะที่จรวดเข้าสู่ห้วงอวกาศ เครื่องยนต์เสริมทั้งสองข้างจะหยุดท�างาน และจะถูกปลด
ทิ้งเพื่อลดน�้าหนัก จากนั้นอุปกรณ์ที่ใช้ครอบและป้องกันความร้อนจากการเสียดสีในชั้น
บรรยากาศก็จะดีดตัวออกมา หลังจากนั้น เครื่องยนต์หลักจะถูกปิดและถูกตัดออกจาก
จรวดขนส่ง
ต่อไปเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ส่วนบนที่จะพาดาวเทียมมุ่งสู่จุดหมาย
ปลายทาง ในนาทีที่ 25 หลังจากการยิงจรวด เครื่องยนต์ส่วนบนถูกปิด ดาวเทียมจะดีด
ตัวออก ตามมาด้วยการดีดตัวของ อุปกรรณ์ชั้นในที่ใช้ครอบดาวเทียม ระหว่างนี้จรวด
ส่วนที่เหลือจะหมุนตัวด้วยอัตราความเร็ว 1.5 รอบ ต่อนาทีเพื่อเตรียมปล่อยดาวเทียม
ออกสู่อวกาศ

