Page 160 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 160
- ๑๖๐ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
และลงลำยมือชื่อของผู้ทรง กำรอื่น ๆ นอกจำกที่กล่ำวนี้ ท่ำนให้บังคับตำมบทบัญญัติ มำตรำ ๙๖๓
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
เมื่อเหตุจ ำเป็นอนมิอำจก้ำวล่วงเสียได้นั้นสุดสิ้นลงแล้ว ผู้ทรงต้องยื่นตั๋วเงินให้เขำ
ั
ี
ี
ี
รับรองหรือใช้เงินโดยไม่ชักช้ำ และถ้ำจ ำเป็นก็ท ำค ำคัดค้ำนขึ้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ถ้ำเหตุจ ำเป็นอนมิอำจก้ำวล่วงเสียได้นั้น ยังคงมีอยู่ต่อไปจนเป็นเวลำกว่ำสำมสิบวัน
ั
ภำยหลังตั๋วเงินถึงก ำหนดไซร้ ท่ำนว่ำจะใช้สิทธิไล่เบี้ยก็ได้ และถ้ำเช่นนั้นกำรยื่นตั๋วเงินก็ดี กำรท ำค ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
คัดค้ำนก็ดี เป็นอันไม่จ ำเป็นต้องท ำ
ในส่วนตั๋วเงินชนิดที่ให้ใช้เงินเมื่อได้เห็น หรือให้ใช้เงินในระยะเวลำอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ภำยหลังได้เห็นนั้น ก ำหนดสำมสิบวันเช่นว่ำมำนี้ ท่ำนให้นับแต่วันที่ผู้ทรงได้ให้ค ำบอกกล่ำวเหตุ
จ ำเป็นอนมิอำจก้ำวล่วงเสียได้นั้นแก่ผู้สลักหลังถัดตนขึ้นไป และถึงแม้ว่ำจะเป็นกำรก่อนล่วง
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ก ำหนดเวลำยื่นตั๋วเงิน ก็ให้นับเช่นนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส่วนที่ ๗
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ตั๋วแลกเงินเป็นส ำรับ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
มำตรำ ๙๗๕ อนตั๋วแลกเงินนั้น นอกจำกชนิดที่สั่งจ่ำยแก่ผู้ถือแล้ว จะออกไปเป็นคู่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ฉีกควำมต้องกันสองฉบับหรือกว่ำนั้นก็อำจจะออกได้
คู่ฉีกเหล่ำนี้ต้องมีหมำยล ำดับลงไว้ในตัวตรำสำรนั้นเอง มิฉะนั้นคู่ฉีกแต่ละฉบับย่อม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ใช้ได้เป็นตั๋วแลกเงินฉบับหนึ่ง ๆ แยกเป็นตั๋วเงินต่ำงฉบับกัน
บุคคลทุกคนซึ่งเป็นผู้ทรงตั๋วเงินอนมิได้ระบุว่ำได้ออกเป็นตั๋วเดี่ยวนั้น จะเรียกให้ส่ง
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ิ
มอบคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่ำนั้นแก่ตนก็ได้ โดยยอมให้คดค่ำใช้จ่ำยเอำแก่ตน ในกำรนี้ผู้ทรงต้องว่ำกล่ำว
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ไปยังผู้สลักหลังคนถัดตนขึ้นไป และผู้สลักหลังคนนั้นก็จ ำต้องช่วยผู้ทรงว่ำกล่ำวไปยังผู้ที่สลักหลัง
ี
ี
ี
ให้แก่ตนต่อไปอก สืบเนื่องกันไปเช่นนี้ตลอดสำยจนกระทั่งถึงผู้สั่งจ่ำย อนึ่งผู้สลักหลังทั้งหลำยจ ำต้อง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
เขียนค ำสลักหลังของตนเป็นควำมเดียวกันลงในฉบับคู่ฉีกใหม่แห่งตั๋วส ำรับนั้นอกด้วย
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๙๗๖ ถ้ำผู้ทรงตั๋วแลกเงินส ำรับหนึ่งสลักหลังคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่ำนั้นให้แก่
ู่
บุคคลต่ำงคนกัน ท่ำนว่ำผู้ทรงย่อมต้องรับผิดตำมคฉีกเช่นว่ำนั้นทุก ๆ ฉบับ และผู้สลักหลังภำยหลังผู้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ั
ทรงทุก ๆ คนก็ต้องรับผิดตำมคู่ฉีกอนตนเองได้สลักลงไปนั้น เสมือนดังว่ำคู่ฉีกที่ว่ำนั้นแยกเป็นตั๋วเงิน
ต่ำงฉบับกัน ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ีำ ๙๗๗ ถ้ำคู่ฉีกสองฉบับหรือกว่ำนั้นในส ำรับหนึ่งได้เปลี่ยนมือไปยังผู้ทรงโดย
มำตร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ชอบด้วยกฎหมำยต่ำงคนกันไซร้ ในระหว่ำงผู้ทรงเหล่ำนั้นด้วยกัน คนใดได้เป็นสิทธิก่อน ท่ำนให้ถือว่ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
คนนั้นเป็นเจ้ำของอนแท้จริงแห่งตั๋วเงินนั้น แต่ควำมใด ๆ ในบทมำตรำนี้ไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิของ
ั
ี
ี
่
บุคคลผู้ท ำกำรโดยชอบด้วยกฎหมำยรับรองหรือใช้เงินไปตำมคู่ฉีกฉบับซึ่งเขำยื่นแก่ตนกอน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๙๗๘ ค ำรับรองนั้นจะเขียนลงในคู่ฉีกฉบับใดก็ได้ และจะต้องเขียนลงในคู่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ฉีกแต่เพียงฉบับเดียวเท่ำนั้น
ถ้ำผู้จ่ำยรับรองลงไปกว่ำฉบับหนึ่ง และคู่ฉีกซึ่งรับรองเช่นนั้นตกไปถึงมือผู้ทรงโดย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

