Page 243 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 243
- ๒๔๓ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำมีภริยำต้องช่วยเหลืออุปกำระเลี้ยงดูกันตำมควำมสำมำรถและฐำนะของตน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๖๒ ในกรณีที่สำมีภริยำไม่สำมำรถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสำมีภริยำ
๑๑๖
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
โดยปกติสุขได้ หรือถ้ำกำรอยู่ร่วมกันจะเป็นอนตรำยแก่กำยหรือจิตใจหรือท ำลำยควำมผำสุกอย่ำง
มำก สำมีหรือภริยำฝ่ำยที่ไม่สำมำรถที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสำมีภริยำโดยปกติสุขได้หรือฝ่ำยที่จะต้อง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ั
ื่
รับอนตรำยหรือถูกท ำลำยควำมผำสุก อำจร้องต่อศำลเพอให้มีค ำสั่งอนุญำตให้ตนอยู่ต่ำงหำกใน
ุ
ระหว่ำงที่เหตุนั้น ๆ ยังมีอยู่ก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ศำลจะก ำหนดจ ำนวนค่ำอปกำระเลี้ยงดูให้ฝ่ำยหนึ่งจ่ำย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่งตำมควรแก่พฤติกำรณ์ก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๔๖๓ ในกรณีที่ศำลสั่งให้สำมีหรือภริยำเป็นคนไร้ควำมสำมำรถหรือ
เสมือนไร้ควำมสำมำรถ ภริยำหรือสำมีย่อมเป็นผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์ แต่เมื่อผู้มีส่วนได้เสียหรืออัยกำร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ร้องขอ และถ้ำมีเหตุส ำคัญ ศำลจะตั้งผู้อื่นเป็นผู้อนุบำลหรือผู้พิทักษ์ก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
๑๑๗
มำตรำ ๑๔๖๔ ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งเป็นคนวิกลจริต ไม่ว่ำศำลจะได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถหรือไม่ ถ้ำคู่สมรสอีกฝ่ำยหนึ่งไม่อุปกำระเลี้ยงดูฝ่ำยที่วิกลจริตตำมมำตรำ
๑๔๖๑ วรรคสอง หรือกระท ำกำรหรือไม่กระท ำกำรอย่ำงใด อันเป็นเหตุให้ฝ่ำยที่วิกลจริตอยู่ในภำวะ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
อันน่ำจะเกิดอนตรำยแก่กำยหรือจิตใจ หรือตกอยู่ในภำวะอนน่ำจะเกิดควำมเสียหำยทำงทรัพย์สินถึง
ั
ั
ุ
ขนำด บุคคลตำมที่ระบุไว้ในมำตรำ ๒๘ หรือผู้อนุบำลอำจฟองคู่สมรสอกฝ่ำยหนึ่งเรียกค่ำอปกำระ
้
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
เลี้ยงดูให้แก่ฝ่ำยที่วิกลจริต หรือขอให้ศำลมีค ำสั่งใด ๆ เพื่อคุ้มครองฝ่ำยที่วิกลจริตนั้นได้
ีณีฟ้องเรียกค่ำอุปกำระเลี้ยงดูตำมวรรคหนึ่ง ถ้ำยังมิได้มีค ำสั่งของศำลว่ำคู่
ในกร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถก็ให้ขอต่อศำลในคดีเดียวกันให้ศำลมีค ำสั่งว่ำคู่สมรสซึ่ง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ื่
วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ โดยขอให้ตั้งตนเองหรือผู้อนที่ศำลเห็นสมควรเป็นผู้อนุบำล หรือ
ี
ี
ถ้ำได้มีค ำสั่งของศำลแสดงว่ำคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถอยู่แล้ว จะขอให้ถอดถอนผู้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
อนุบำลคนเดิม และแต่งตั้งผู้อนุบำลคนใหม่ก็ได้
ี
ี
ี
ในกำรขอให้ศำลมีค ำสั่งใด ๆ เพอคุ้มครองคู่สมรสฝ่ำยที่วิกลจริตโดยมิได้เรียกค่ำ
ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
อปกำระเลี้ยงดูด้วยนั้น จะไม่ขอให้ศำลมีค ำสั่งให้คู่สมรสฝ่ำยที่วิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
ุ
หรือจะไม่ขอเปลี่ยนผู้อนุบำลก็ได้ แต่ถ้ำศำลเห็นว่ำวิธีกำรคุ้มครองที่ขอนั้นจ ำต้องมีผู้อนุบำลหรือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
เปลี่ยนผู้อนุบำล ให้ศำลมีค ำสั่งให้จัดกำรท ำนองเดียวกับที่บัญญัติไว้ในวรรคสอง แล้วจึงมีค ำสั่ง
คุ้มครองตำมที่เห็นสมควร ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ิ่
[เลขมำตรำ ๒๘ แก้ไขเพมเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
๑๑๖ มำตรำ ๑๔๖๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๙) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๑๗ มำตรำ ๑๔๖๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่งและ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
พำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๓๓

