Page 255 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 255
- ๒๕๕ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑๐) สำมีหรือภริยำมีสภำพแห่งกำยท ำให้สำมีหรือภริยำนั้นไม่อำจร่วมประเวณีได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ตลอดกำล อีกฝ่ำยหนึ่งฟ้องหย่ำได้
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
้
มำตรำ ๑๕๑๗ เหตุฟองหย่ำตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๑) และ (๒) ถ้ำสำมีหรือภริยำ
ี
แล้วแต่กรณี ได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในกำรกระท ำที่เป็นเหตุหย่ำนั้น ฝ่ำยที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
นั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่ำไม่ได้
ี
เหตุฟองหย่ำตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๑๐) ถ้ำเกิดเพรำะกำรกระท ำของอกฝ่ำยหนึ่ง อีก
้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ฝ่ำยหนึ่งนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่ำไม่ได้
้
ในกรณีฟองหย่ำโดยอำศัยเหตุแห่งกำรผิดทัณฑ์บนตำมมำตรำ ๑๕๑๖ (๘) นั้น ถ้ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ั
ศำลเห็นว่ำควำมประพฤติของสำมีหรือภริยำอนเป็นเหตุให้ท ำทัณฑ์บนเป็นเหตุเล็กน้อยหรือไม่ส ำคัญ
เกี่ยวแก่กำรอยู่ร่วมกันฉันสำมีภริยำโดยปกติสุข ศำลจะไม่พิพำกษำให้หย่ำก็ได้ ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
้
้
มำตรำ ๑๕๑๘ สิทธิฟองหย่ำย่อมหมดไปในเมื่อฝ่ำยที่มีสิทธิฟองหย่ำได้กระท ำกำร
ี
ี
ี
อันแสดงให้เห็นว่ำได้ให้อภัยในกำรกระท ำของอีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดสิทธิฟ้องหย่ำนั้นแล้ว
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๕๑๙ ในกรณีที่คู่สมรสฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งเป็นคนวิกลจริตและมีเหตุหย่ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
เกิดขึ้นไม่ว่ำเหตุนั้นจะได้เกิดขึ้นก่อนหรือภำยหลังกำรเป็นคนวิกลจริต ให้บุคคลซึ่งอำจร้องขอต่อศำล
ี
ให้สั่งให้บุคคลวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถตำมมำตรำ ๒๘ มีอำนำจฟ้องคู่สมรสอกฝ่ำยหนึ่งขอให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ิ
ศำลพพำกษำให้หย่ำขำดจำกกันและแบ่งทรัพย์สินได้ ในกรณีเช่นว่ำนี้ ถ้ำยังมิได้มีค ำสั่งของศำลแสดง
ว่ำคู่สมรสซึ่งวิกลจริตเป็นคนไร้ควำมสำมำรถก็ให้บุคคลดังกล่ำวขอร้องขอต่อศำลในคดีเดียวกันนั้นให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ศำลมีค ำสั่งว่ำคู่สมรสซึ่งวิกลจริตนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
เมื่อบุคคลดังกล่ำวเห็นสมควร จะร้องขอต่อศำลให้มีค ำสั่งตำมมำตรำ ๑๕๒๖ หรือ
ี
ี
มำตรำ ๑๕๓๐ ด้วยก็ได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ในกรณีที่คู่สมรสซึ่งถูกอ้ำงว่ำเป็นคนวิกลจริตยังไม่ได้ถูกสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ
ี
ี
ี
หำกศำลเห็นว่ำคู่สมรสนั้นยังไม่เป็นคนที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถก็ให้ยกฟองคดีนั้นเสีย ถ้ำ
้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
เห็นว่ำเป็นบุคคลที่ควรสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ แต่ยังไม่สมควรจะให้มีกำรหย่ำ ก็ให้ศำลสั่งให้คู่
ื่
สมรสนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถโดยไม่จะสั่งเรื่องผู้อนุบำลหรือจะตั้งผู้อนเป็นผู้อนุบำลตำมมำตรำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
๑๔๖๓ ก็ได้ คงพพำกษำยกแต่เฉพำะข้อหย่ำ ในกรณีเช่นนี้ศำลจะสั่งก ำหนดค่ำเลี้ยงชีพด้วยก็ได้ ใน
ิ
กรณีที่ศำลเห็นว่ำคู่สมรสนั้นวิกลจริตอันควรสั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถและทั้งมีเหตุควรให้หย่ำด้วย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ก็ให้ศำลสั่งในค ำพิพำกษำให้คู่สมรสนั้นเป็นคนไร้ควำมสำมำรถ ตั้งผู้อนุบำลและให้หย่ำ
ีณีนี้ ถ้ำศำลเห็นว่ำเหตุหย่ำที่ยกขึ้นอ้ำงในกำรฟ้องร้องนั้นไม่เหมำะสมแก่สภำพ
ในกร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ของคู่สมรสซึ่งเป็นคนไร้ควำมสำมำรถที่จะหย่ำจำกคู่ส มรสอีกฝ่ำยหนึ่งก็ดี ตำมพฤติกำรณ์ไม่สมควรที่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
จะให้มีกำรหย่ำขำดจำกกันก็ดี ศำลจะพิพำกษำไม่ให้หย่ำก็ได้ ี
ี
[เลขมำตรำ ๒๘ แก้ไขเพมเติมโดยมำตรำ ๑๕ แห่งพระรำชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ
ิ่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
บรรพ ๑ แห่งประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ที่ได้ตรวจช ำระใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๕]
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

