Page 27 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564

- ๒๗ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๓๐ มูลนิธิย่อมเลิกด้วยเหตุหนึ่งเหตุใด ดังต่อไปนี้
ี
ี
ี

(๑) เมื่อมีเหตุตำมที่ก ำหนดในข้อบังคับ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
(๒) ถ้ำมูลนิธิตั้งขึ้นไว้เฉพำะระยะเวลำใด เมื่อสิ้นระยะเวลำนั้น
ี

(๓) ถ้ำมูลนิธิตั้งขึ้นเพอวัตถุประสงค์อย่ำงใด และได้ด ำเนินกำรตำมวัตถุประสงค์
ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
์
ส ำเร็จบริบูรณ์แล้ว หรือวัตถุประสงคนั้นกลำยเป็นพ้นวิสัย

(๔) เมื่อมูลนิธินั้นล้มละลำย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
(๕) เมื่อศำลมีค ำสั่งให้เลิกมูลนิธิตำมมำตรำ ๑๓๑

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๓๑ นำยทะเบียน พนักงำนอยกำร หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดอำจ
ั

ร้องขอต่อศำลให้มีค ำสั่งให้เลิกมูลนิธิได้ในกรณีหนึ่งกรณีใด ดังต่อไปนี้ ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
(๑) เมื่อปรำกฏว่ำวัตถุประสงค์ของมูลนิธิขัดต่อกฎหมำย

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
(๒) เมื่อปรำกฏว่ำมูลนิธิกระท ำกำรขัดต่อกฎหมำยหรือศีลธรรมอนดีของประชำชน
ั
ี
ี
ี

หรืออำจเป็นภยันตรำยต่อควำมสงบสุขของประชำชนหรือควำมมั่นคงของรัฐ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
(๓) เมื่อปรำกฏว่ำมูลนิธิไม่สำมำรถด ำเนินกิจกำรต่อไปได้ไม่ว่ำเพรำะเหตุใด ๆ หรือ
หยุดด ำเนินกิจกำรตั้งแต่สองปีขึ้นไป
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

มำตรำ ๑๓๒ เมื่อมูลนิธิมีเหตุต้องเลิกตำมมำตรำ ๑๓๐ (๑) (๒) หรือ (๓) แล้ว ให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
คณะกรรมกำรของมูลนิธิที่อยู่ในต ำแหน่งขณะมีกำรเลิกมูลนิธิแจ้งกำรเลิกมูลนิธิต่อนำยทะเบียน

ภำยในสิบสี่วันนับแต่วันที่มีกำรเลิกมูลนิธิ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ิ
ในกรณีที่ศำลมีค ำพพำกษำหรือค ำสั่งถึงที่สุดให้มูลนิธิล้มละลำยตำมมำตรำ ๑๓๐

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ

ิ
(๔) หรือมีค ำสั่งถึงที่สุดให้เลิกมูลนิธิตำมมำตรำ ๑๓๑ ให้ศำลแจ้งค ำพพำกษำหรือคำสั่งดังกล่ำวให้นำย
ี
ี
ทะเบียนทรำบด้วย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ให้นำยทะเบียนประกำศกำรเลิกมูลนิธิในรำชกิจจำนุเบกษำ
ี
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๓๓ ในกรณีที่มีกำรเลิกมูลนิธิ ให้มีกำรช ำระบัญชีมูลนิธิและให้น ำ

บทบัญญัติในบรรพ ๓ ลักษณะ ๒๒ ว่ำด้วยกำรช ำระบัญชีห้ำงหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้ำงหุ้นส่วนจ ำกัด
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
และบริษัทจ ำกัด มำใช้บังคับแก่กำรช ำระบัญชีมูลนิธิโดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้ผู้ช ำระบัญชีเสนอรำยงำน

กำรช ำระบัญชีต่อนำยทะเบียน และให้นำยทะเบียนเป็นผู้อนุมัติรำยงำนนั้น ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี

ีำ ๑๓๔ เมื่อได้ช ำระบัญชีแล้ว ให้โอนทรัพย์สินของมูลนิธิให้แก่มูลนิธิหรือนิติ
มำตร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
บุคคลที่มีวัตถุประสงค์ตำมมำตรำ ๑๑๐ ซึ่งได้ระบุชื่อไว้ในข้อบังคับของมูลนิธิ ถ้ำข้อบังคับของมูลนิธิ

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ั
มิได้ระบุชื่อมูลนิธิหรือนิติบุคคลดังกล่ำวไว้ พนักงำนอยกำร ผู้ช ำระบัญชี หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคน
ี
ี

ื่
ใด อำจร้องขอต่อศำลให้จัดสรรทรัพย์สินนั้นแก่มูลนิธิหรือนิติบุคคลอนที่ปรำกฏว่ำมีวัตถุประสงค์
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ใกล้ชิดที่สุดกับวัตถุประสงค์ของมูลนิธินั้นได้
ี
ี
ี

ถ้ำมูลนิธินั้นถูกศำลสั่งให้เลิกตำมมำตรำ ๑๓๑ (๑) หรือ (๒) หรือกำรจัดสรร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ทรัพย์สินตำมวรรคหนึ่งไม่อำจกระท ำได้ ให้ทรัพย์สินของมูลนิธิตกเป็นของแผ่นดิน

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี