Page 33 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 33
- ๓๓ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ึ
โมฆะทั้งสิ้น เว้นแต่จะพงสันนิษฐำนได้โดยพฤติกำรณ์แห่งกรณีว่ำ คู่กรณีเจตนำจะให้ส่วนที่ไม่เป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
โมฆะนั้นแยกออกจำกส่วนที่เป็นโมฆะได้
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๗๔ กำรใดเป็นโมฆะแต่เข้ำลักษณะเป็นนิติกรรมอย่ำงอนซึ่งไม่เป็นโมฆะ
ี
ี
ื่
ให้ถือตำมนิติกรรมซึ่งไม่เป็นโมฆะ ถ้ำสันนิษฐำนได้โดยพฤติกำรณ์แห่งกรณีว่ำ หำกคู่กรณีได้รู้ว่ำกำร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
นั้นเป็นโมฆะแล้ว ก็คงจะได้ตั้งใจมำตั้งแต่แรกที่จะท ำนิติกรรมอย่ำงอื่นซึ่งไม่เป็นโมฆะนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๑๗๕ โมฆียะกรรมนั้น บุคคลต่อไปนี้จะบอกล้ำงเสียก็ได้
(๑) ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้เยำว์ซึ่งบรรลุนิติภำวะแล้ว แต่ผู้เยำว์จะบอกล้ำง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ก่อนที่ตนบรรลุนิติภำวะก็ได้ถ้ำได้รับควำมยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรม
ีคนไร้ควำมสำมำรถหรือคนเสมือนไร้ควำมสำ
(๒) บุคคลซึ่งศำลสั่งให้เป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ มำรถ เมื่อ
ี
บุคคลนั้นพนจำกกำรเป็นคนไร้ควำมสำมำรถหรือคนเสมือนไร้ควำมสำมำรถแล้ว หรือผู้อนุบำลหรือผู้
้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ิ
พทักษ์ แล้วแต่กรณี แต่คนเสมือนไร้ควำมสำมำรถจะบอกล้ำงก่อนที่ตนจะพนจำกกำรเป็นคนเสมือน
้
ี
ี
ี
ั
ไร้ควำมสำมำรถก็ได้ถ้ำได้รับควำมยินยอมของผู้พิทกษ ์
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
(๓) บุคคลผู้แสดงเจตนำเพรำะส ำคัญผิด หรือถูกกลฉ้อฉล หรือถูกข่มขู่
(๔) บุคคลวิกลจริตผู้กระท ำนิติกรรมอนเป็นโมฆียะตำมมำตรำ ๓๐ ในขณะที่จริต
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ของบุคคลนั้นไม่วิกลแล้ว
ถ้ำบุคคลผู้ท ำนิติกรรมอนเป็นโมฆียะถึงแกควำมตำยก่อนมีกำรบอกล้ำงโมฆียะกรรม
ั
่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ทำยำทของบุคคลดังกล่ำวอำจบอกล้ำงโมฆียะกรรมนั้นได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๗๖ โมฆียะกรรมเมื่อบอก ล้ำงแล้ว ให้ถือว่ำเป็นโมฆะมำแต่เริ่มแรก และ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ให้ผู้เป็นคู่กรณีกลับคืนสู่ฐำนะเดิม ถ้ำเป็นกำรพนวิสัยจะให้กลับคืนเช่นนั้นได้ ก็ให้ได้รับค่ำเสียหำย
้
ี
ี
ชดใช้ให้แทน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำบุคคลใดได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่ำกำรใดเป็นโมฆียะ เมื่อบอกล้ำงแล้ว ให้ถือว่ำบุคคล
ี
ี
ี
นั้นได้รู้ว่ำกำรนั้นเป็นโมฆะ นับแต่วันที่ได้รู้หรือควรจะได้รู้ว่ำเป็นโมฆียะ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
ห้ำมมิให้ใช้สิทธิเรียกร้องอนเกิดแต่กำรกลับคืนสู่ฐำนะเดิมตำมวรรคหนึ่ง เมื่อพน
้
หนึ่งปีนับแต่วันบอกล้ำงโมฆียะกรรม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๗๗ ถ้ำบุคคลผู้มีสิทธิบอกล้ำงโมฆียะกรรมตำมมำตรำ ๑๗๕ ผู้หนึ่งผู้ใด
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ได้ให้สัตยำบันแก่โมฆียะกรรม ให้ถือว่ำกำรนั้นเป็นอนสมบูรณ์มำแต่เริ่มแรก แต่ทั้งนี้ย่อมไม่
ั
กระทบกระเทือนถึงสิทธิของบุคคลภำยนอก
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๑๗๘ กำรบอกล้ำงหรือให้สัตยำบันแก่โมฆียะกรรม ย่อมกระท ำได้โดยกำร
ี
ี
แสดงเจตนำแก่คู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งเป็นบุคคลที่มีตัวก ำหนดได้แน่นอน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๑๗๙ กำรให้สัตยำบันแก่โมฆียะกรรมนั้น จะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้กระท ำ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ภำยหลังเวลำที่มูลเหตุให้เป็นโมฆียะกรรมนั้นหมดสิ้นไปแล้ว
บุคคลซึ่งศำลได้สั่งให้เป็นคนไร้ควำมสำมำรถ คนเสมือนไร้ควำมสำมำรถหรือบุคคล
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

