Page 61 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564

- ๖๑ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

ึ
มำตรำ ๓๒๔ เมื่อมิได้มีแสดงเจตนำไว้โดยเฉพำะเจำะจงว่ำจะพงช ำระหนี้ ณ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
สถำนที่ใดไซร้ หำกจะต้องส่งมอบทรัพย์เฉพำะสิ่ง ท่ำนว่ำต้องส่งมอบกัน ณ สถำนที่ซึ่งทรัพย์นั้นได้อยู่
ี
ี
ี

ื่
ในเวลำเมื่อก่อให้เกิดหนี้นั้น ส่วนกำรช ำระหนี้โดยประกำรอน ท่ำนว่ำต้องช ำระ ณ สถำนที่ซึ่งเป็น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ภูมิล ำเนำปัจจุบันของเจ้ำหนี้ ี ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๓๒๕ เมื่อมิได้มีแสดงเจตนำไว้ในข้อค่ำใช้จ่ำยในกำรช ำระหนี้ ท่ำนว่ำฝ่ำย

ิ่
ึ
ลูกหนี้พงเป็นผู้ออกค่ำใช้จ่ำย แต่ถ้ำค่ำใช้จ่ำยนั้นมีจ ำนวนเพมขึ้นเพรำะเจ้ำหนี้ย้ำยภูมิล ำเนำก็ดี หรือ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
เพรำะกำรอื่นใดอันเจ้ำหนี้ได้กระท ำก็ดี ค่ำใช้จ่ำยเพิ่มขึ้นเท่ำใดเจ้ำหนี้ต้องเป็นผู้ออก

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๓๒๖ บุคคลผู้ช ำระหนี้ชอบที่จะได้รับใบเสร็จเป็นส ำคัญจำกผู้รับช ำระหนี้นั้น

ั
และถ้ำหนี้นั้นได้ช ำระสิ้นเชิงแล้ว ผู้ช ำระหนี้ชอบที่จะได้รับเวนคืนเอกสำรอนเป็นหลักฐำนแห่งหนี้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี

หรือให้ขีดฆ่ำเอกสำรนั้นเสีย ถ้ำและเอกสำรนั้นสูญหำย บุคคลผู้ช ำระหนี้ชอบที่จะให้จดแจ้งควำมข้อ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
็
ระงับหนี้ลงไว้ในใบเสร็จหรือในเอกสำรอีกฉบับหนึ่งต่ำงหำกกได้
ี
ี
ี

ถ้ำหนี้นั้นได้ช ำระแต่บำงส่วนก็ดี หรือถ้ำเอกสำรนั้นยังให้สิทธิอย่ำงอนใดแก่เจ้ำหนี้
ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
อยู่ก็ดี ท่ำนว่ำลูกหนี้ชอบแต่ที่จะได้รับใบเสร็จไว้เป็นคู่มือ และให้จดแจ้งกำรช ำระหนี้นั้นลงไว้ใน
เอกสำร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

ั
มำตรำ ๓๒๗ ในกรณีช ำระดอกเบี้ย หรือช ำระหนี้อย่ำงอนอนมีก ำหนดช ำระเป็น
ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ิ
ระยะเวลำนั้น ถ้ำเจ้ำหนี้ออกใบเสร็จให้เพอระยะหนึ่งแล้วโดยมิได้อดเออน ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อน
ื่
ื้

ว่ำเจ้ำหนี้ได้รับช ำระหนี้เพื่อระยะก่อน ๆ นั้นด้วยแล้ว
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ื่
ถ้ำเจ้ำหนี้ออกใบเสร็จให้เพอกำรช ำ ระต้นเงิน ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำเจ้ำหนี้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ได้รับดอกเบี้ยแล้ว ี ี

ถ้ำเอกสำรอันเป็นหลักฐำนแห่งหนี้ได้เวนคืนแล้วไซร้ ท่ำนให้สันนิษฐำนไว้ก่อนว่ำหนี้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
นั้นเป็นอันระงับสิ้นไปแล้ว
ี
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ั
มำตรำ ๓๒๘ ถ้ำลูกหนี้ต้องผูกพนต่อเจ้ำหนี้ในอนจะกระท ำกำรเพอช ำระหนี้เป็น
ื่
ั

กำรอย่ำงเดียวกันโดยมูลหนี้หลำยรำย และถ้ำกำรที่ลูกหนี้ช ำระหนี้นั้นไม่เพยงพอจะเปลื้องหนี้สินได้
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
หมดทุกรำยไซร้ เมื่อท ำกำรช ำระหนี้ ลูกหนี้ระบุว่ำช ำระหนี้สินรำยใด ก็ให้หนี้สินรำยนั้นเป็นอนได้
ั

เปลื้องไป ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ถ้ำลูกหนี้ไม่ระบุ ท่ำนว่ำหนี้สินรำยไหนถึงก ำหนด ก็ให้รำยนั้นเป็นอนได้เปลื้องไป
ั

ก่อน ในระหว่ำงหนี้สิน
ีหลำยรำยที่ถึงก ำหนดนั้น รำยใดเจ้ำหนี้มีประกันน้อยที่สุด ก็ให้รำยนั้นเป็นอัน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ได้เปลื้องไปก่อน ในระหว่ำงหนี้สินหลำยรำยที่มีประกันเท่ำ ๆ กัน ให้รำยที่ตกหนักที่สุดแก่ลูกหนี้เป็น

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
อนได้เปลื้องไปก่อน ในระหว่ำงหนี้สินหลำยรำยที่ตกหนักแก่ลูกหนี้เท่ำ ๆ กัน ให้หนี้สินรำยเก่ำที่สุด
ั
ี
ี

เป็นอนได้เปลื้องไปก่อน และถ้ำมีหนี้สินหลำยรำยเก่ำเท่ำ ๆ กัน ก็ให้หนี้สินทุกรำยเป็นอันได้เปลื้องไป
ั
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ตำมส่วนมำกและน้อย
ี
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๓๒๙ ถ้ำนอกจำกกำรช ำระหนี้อนเป็นประธำน ลูกหนี้ยังจะต้องช ำระ
ั

ี
ดอกเบี้ยและเสียค่ำฤชำธรรมเนียมอกด้วยไซร้ หำกกำรช ำระหนี้ในครั้งหนึ่ง ๆ ไม่ได้รำคำเพยงพอจะ
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี