Page 134 - วิทยาศาสตร์ ม.ปลาย
P. 134
126
แบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั
ในปี พ.ศ. 2346 (ค.ศ.1803) จอหน์ ดอลตนั (John
Dalton) นกั วิทยาศาสตร์ ชาวองั กฤษไดเ้ สนอทฤษฎีอะตอม
เพือใชอ้ ธิบายเกียวกบั การเปลียนแปลงของสารก่อนและหลงั ทาํ
ปฏกิ ิริยา รวมทงั อตั ราส่วนโดยมวลของธาตุทีรวมกนั เป็น
สารประกอบ ซึงสรุปไดด้ งั นี
1. ธาตุประกอบดว้ ยอนุภาคเลก็ ๆ หลายอนุภาค อนุภาค
เหลา่ นีเรียกวา่ “อะตอม” ซึงแบ่งแยกไม่ได้ และทาํ ให้สูญหายไม่ได้
2. อะตอมของธาตุชนิดเดยี วกนั มสี มบตั ิเหมือนกนั เช่น มีมวลเท่ากนั แต่จะมสี มบตั ิต่างจาก
อะตอมของธาตุอืน
3. สารประกอบเกดิ จากอะตอมของธาตุมากกว่าหนึงชนิดทาํ ปฏิกิริยาเคมกี นั ในอตั ราส่วนที
เป็นเลขลงตวั นอ้ ย ๆ
ทฤษฎีอะตอมของดอลตนั ใชอ้ ธิบายลกั ษณะและสมบตั ขิ องอะตอมไดเ้ พียงระดบั หนึง แต่ต่อมา
นกั วิทยาศาสตร์คน้ พบขอ้ มลู บางประการทีไมส่ อดคลอ้ งกบั ทฤษฎีอะตอมของ ดอลตนั เช่น พบวา่ อะตอม
ของธาตุชนิดเดียวกนั อาจมีมวลแตกต่างกนั ได้ อะตอมสามารถแบ่งแยกได้
แบบจาํ ลองอะตอมของดอลตนั
แบบจาํ ลองอะตอมของทอมสัน
เซอร์ โจเซฟ จอหน์ ทอมสนั (J.J Thomson)
นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวองั กฤษไดส้ นใจปรากฏการณ์ทีเกิดขึนใน
หลอดรังสีแคโทด จึงทาํ การทดลองเกียวกบั การนาํ ไฟฟ้ าของ
แกส๊ ขึนในปี พ.ศ. 2440 (ค.ศ. 1897) และไดส้ รุปสมบตั ิของรังสี
ไวห้ ลายประการ ดงั นี
1. รังสีแคโทดเดินทางเป็นเสน้ ตรงจากขวั แคโทดไปยงั
ขวั แอโนด เนืองจากรังสีแคโทดทาํ ใหเ้ กิดเงาดาํ ของวตั ถไุ ด้
ถา้ นาํ วตั ถุไปขวางทางเดินของรังสี
2. รังสีแคโทดเป็นอนุภาคทีมีมวล เนืองจากรังสีทาํ ใหใ้ บพดั ทีขวางทางเดินของรังสีหมุนไดเ้ หมอื นถกู ลมพดั
3. รังสีแคโทดประกอบดว้ ยอนุภาคทีมปี ระจุลบ เนืองจากเบียงเบนเขา้ หาขวั บวกของสนามไฟฟ้ า

