Page 39 - หนังสือกฐินวัดกัลยาณมิตร 5-10-2563
P. 39

สร้างได้หลาย ประการ เช่น

                                                          ี
                          ๑.ทรงมีพระราชประสงค์จะให้มพระพุทธรูปองค์ใหญ่�ในกรุงรัตนโกสินทร์
                                                       ึ
                            ี
                   เหมือนท่กรุงเก่า คือกรุงศรีอยุธยา ซ่งมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ท่วัดพนัญเชิง
                                                                               ี
                          ๒. เพื่อให้เหมาะสมกับชื่อเดิมของเจ้าพระยานิกรบดินทร เพราะท่านมีนามเดิม
                   ว่า โต

                          ๓. สมเด็จพระบรมราชชนก คือรัชกาลที่ ๒ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ใหญ่ ไว้
                   ที่วัดแจ้ง (คือพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามในปัจจุบัน) ถ้าพระองค์จะโปรดเกล้าฯ ให้

                   สร้างเจดีย์อีกจะเป็นการซ้าซ้อน  จึงโปรดเกล้าฯ  ให้สร้างพระพุทธรูปองค์โตและสร้าง
                                            �
                   พระวิหารหลวง ซึ่งเป็นวิหารที่สูงสุดในสมัยนั้น เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงได้พระราชทาน

                   นามถวายพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระโต ชาวจีนเรียกว่า ซ�าปอกง

                          พระราชพงศาวดารรัชกาลที่  ๓  ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์กล่าวว่า  พระบาท

                   สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาก่อพระฤกษ์  เมื่อวันที่  ๑๘  พฤษภาคม  พุทธ

                   ศักราช  ๒๓๘๐  ไม่ปรากฏว่าสร้างอยู่กี่ปี  ส�าเร็จแล้วก็พระราชทานนามว่า  “พระโต”

                   ต่อมาในรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า

                   พระพุทธไตรรัตนนายก หมายถึง เป็นผู้ใหญ่หรือผู้น�า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

                   (ไตรรัตน์ คือ แก้ว ๓ ประการ) ชาวจีนเรียกว่า ซ�าปอกง หรือซ�าปอฮุดกง อาจหมาย
                   ถึงหลวงปู่ผู้ ยิ่งใหญ่ทั้งสาม (ซ�า แปลว่า สาม, ป้อ แปลว่า สูงส่ง ยิ่งใหญ่, ฮุด แปลว่า

                   พระ, กง หรือก๋ง แปลว่า ปู่ ผู้เฒ่า หรือผู้ใหญ่)

                          ต�านานซ�าปอกง  เล่าว่า  ซ�าปอกงหรือเจิ้งเหอ  เดิมชื่อว่า  หม่าเหอ  เกิดใน

                   ครอบครัวชาวมุสลิมที่เมืองคุนหยาง  มณฑลยูนนานตอนใต้ประเทศจีน  ต่อมา  ค.ศ.

                   ๑๓๘๑ เกิดสงคราม กวาดล้างกองก�าลังมองโกลที่ปักหลักอยู่ในแถบยูนนาน ท่ามกลาง

                   ความวุ่นวายของสงคราม หม่าเหอ วัย ๑๑ ปี ตกเป็นเชลยศึก ถูกส่งตัวเข้ามาเป็นขันที

                   เพื่อท�างานรับใช้ในกองทัพ

                          หม่าเหอ ติดตามกองทัพเข้าร่วมในสมรภูมิรบจนอายุ ๑๙ ปี ได้มารับใช้ เอี้ยน

                   หวัง จูตี้ องค์ชายสี่แห่งราชวงศ์หมิงที่ปักกิ่ง นับแต่นั้น หม่าเหอ ก็ติดตามอยู่ข้างกาย

                   เอี้ยนหวัง  จูตี้  กลายเป็นคนสนิท  ได้รับความไว้วางใจมาก  หม่าเหอได้สร้างความดี



                                                                                                    37




       ������������������������ 2563 ������������.indd   37                                         21/10/2563 BE   13:44
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44