Page 15 - ไม้สน2545
P. 15
5
ี
ิ
ี
ี
อุบลราชธาน มีระยะชะงักงันประมาณ 1 ป แหล่งกําเนดอําเภอฝาง จังหวัดเชยงใหม่ มีระยะชะงักงัน
ิ
5 – 7 ป เปนต้น จากการเปรยบเทยบการเจรญเตบโตของกล้าไม้สน 4 ชนดเมื ออายุ 1 ป พบว่าสนคารเบย
ี
ี
ิ
ี
ิ
ี
็
ิ
ี
ู
ู
สนโอคารปา และสนสามใบ มีความสงเฉลี ย 31.27, 27.26 และ 27.18 เซนตเมตรตามลําดับ โดยสงกว่า
์
ิ
ิ
ึ
ู
ิ
ิ
่
สนสองใบซงมีความสงเพียง 6.27 เซนตเมตร แตการเจรญเตบโตทางเส้นผ่าศูนย์กลางทคอรากของสน
ี
ึ
่
่
ี
ิ
่
์
สามใบ สนโอคารปา สนสองใบ และสนคารเบย ไม่แตกตางกันซงมีคาเทากับ 0.38, 0.37, 0.36 และ 0.32
่
ิ
เซนตเมตรตามลําดับ (สมชาย และคณะ, 2539) สนสองใบเมื อพ้นระยะสภาพหญ้าแล้วในชวง 2 – 3 ป ี
่
ิ
ิ
ึ
ิ
แรกกล้าไม้จะยังคงมีการเจรญเตบโตคอนข้างช้าอีกระยะหนง เมื อตั งตัวดแล้วจงจะเจรญเตบโตอย่างรวด
ิ
ี
ึ
ี
เรวมีลําต้นเปลาตรงสงเฉลี ยปละ 1 – 2 เมตร และขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพิ มข นเฉลี ยปละ 0.7 – 1.0
ึ
ู
็
ี
ึ
ิ
ื
ื
ิ
เซนตเมตร (Cooling, 1968) จนบางต้นทําให้เกด “foxtail” ข นมา คอการมีเรอนยอดพุ่งสงข นไป โดยไม่
ู
ึ
ั
ึ
็
แตกกิ งก้านเปนระยะหลายๆ เมตร แล้วอาจแตกกิ งรอบๆ ลําต้นแบบ basket whorl ซงอาจรบนํ าหนักมาก
็
จนลําต้นหักงอหรอพับกลับลงมาได้ (flop) อันเปนข้อเสยอย่างหนงของสนสองใบ (สมยศ, 2530)
ี
ื
ึ
ุ
Hamzah และ Natawiria (1974) กล่าวว่า ลักษณะการเกด foxtail จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับคณสมบัต ิ
ิ
ู
ิ
ิ
ของดนทั งทางกายภาพและทางเคมี ดนยิ งมีความอุดมสมบรณสงเพียงไรยิ งมีโอกาสเกด foxtail ได้มาก
์
ู
ิ
่
ื
เปลอก ไม้สนสองใบจะหนามากและเปนรองลึกตามความยาวของลําต้นและมีรอยตัด
็
ขวางบ้างเปนระยะๆ ต้นทโตเต็มวัยความหนาของเปลือก 4 – 6 เซนตเมตร สนํ าตาลดําหรอเทาดํา สน
ิ
ี
ื
ี
็
ุ
่
ุ
่
สองใบสายพันธ์ Continental จะมีเปลือกหนารองลึกและใหญกว่าสายพันธ์ Insular การมีเปลือกหนา
ิ
เชนน ีทําให้คอนข้างมีความทนทานตอไฟปา โดยทั วไปสนสองใบจะมีปรมาณเปลือกประมาณ 15 –
่
่
่
่
20 % ของลําต้น ใบ จะอยู่รวมกันเปนกระจก กระจกละ 2 ใบ แตละกระจกอยู่รวมชดตดกันตามปลายก ง
็
ิ
ุ
ิ
่
ุ
ิ
ุ
ู
่
ู
่
ู
ึ
็
ทําให้ดเปนชอแนนคล้ายหางม้า รปทรงด้านขวางของใบเปนแบบ sector มีรปลักษณะคล้ายครงวงกลม
็
ดอก จะออกตามปลายก งตอนบนของลําต้น ดอกตัวผู้มีลักษณะรปทรงคล้ายหมอนกลมยาวนวลๆ ออก
ู
ิ
ี
ี
ิ
ี
้
ิ
ิ
ิ
เรยงซ้อนกันรอบๆ ก ง และมีการเจรญเตบโตพรอมทั งมีการเปลี ยนแปลงของสดอกเร มจากสเขยวนวล
ี
่
็
ี
ี
เหลืองอมเขยว เหลืองม่วง และเมื อแกจัดเกสรตัวผู้จะปลิวกระจายออกมาแล้วกลายเปนสนํ าตาลมี
ุ
ิ
็
ลักษณะแห้งและรวงหลดจากก ง ดอกตัวผู้ของสายพันธ์ Insular อาจจะพบเหนได้ตลอดป สวนดอกตัวผู้
ุ
ี
่
่
ื
ู
ุ
ของสายพันธ์ Continental จะเร มบานประมาณเดอนกุมภาพันธ์ – มีนาคม ดอกตัวเมียมีลักษณะคล้ายรป
ิ
ิ
่
ู
ู
ี
่
็
ื
ู
่
ิ
หลอดไฟหรอคล้ายรปไมโครโฟนแทงยาวตดอยู่ปลายก ง สวนทเปนดอกมีรปรางโค้งนนและมีเกสรโดย
ั
ี
รอบมีสเหลืองอมเขยว เมื อถึงระยะทจะรองรบละอองเกสรตัวผู้เกล็ดจะเปดออกและมีนํ าเลี ยงซมอยู่
ึ
ี
ิ
ี
ี
ั
ื
ิ
รอบๆ เมื อดอกตัวเมียได้รบการผสมจากละอองเกสรตัวผู้แล้วจะเจรญพัฒนาเปลี ยนเปนสม่วง 4 เดอน
็
ิ
ิ
ิ
แรกหลังการผสมเกสรผลจะยาว 0.7 – 2.0 เซนตเมตร แล้วจะเจรญเตบโตอย่างรวดเรวประมาณเดอนละ
็
ื
ิ
ื
็
่
ื
ิ
ิ
่
2 เซนตเมตรในชวง 4 เดอนตอมา จนกระทั งปลายเดอนพฤศจกายนก็จะโตเตมท (10 - 11 เซนตเมตร)
ี

