Page 22 - ไม้สนสามใบ
P. 22
12
ี
่
่
ิ
ุ
ี
่
ิ
ลูกไม้จะเกดแนนมาก สนสามใบสภาพดที สด ลําต้น และการเจรญเติบโตดมาก พบวาสวนใหญ ่
จะขึ นอยู่ในเขตความช นเย็น ความสงระหว่าง 1,500 - 2,200 เมตร
ื
ู
่
ี
่
็
ุ
สนสามใบที พบเปนไม้ขนาดใหญ ขนาดใหญทสดที พบสง 45.7 เมตร เส้น ผ่าศูนย์กลาง
ู
่
ิ
160 เซนติเมตร ในบรเวณ Boboc area และ Benguet ซงเปนแหลงที สนสามใบที ขึ นอยู่ในระดับ
็
ึ
็
เกินกว่า 1,400 เมตร จะเปนไม้ขนาดใหญเปนสวนมาก การเจรญเติบโตดมาก เปลอกของสนสาม
ื
็
่
ิ
่
ี
็
ี
ุ
ใบมีสนํ าตาลเทาขรขระ แตกเปนแผ่นตามยาวอายุที จะออกดอกออกผลประมาณ 12 -15 ป เกสร
ี
ี
ื
ตัวผู้แก่ในเดอนธันวาคม - มกราคม และจะโปรยละอองเกสรในเดือนมีนาคม ดอกตัวเมยจะออก
ื
ในเดอนพฤศจิกายน - ปลาย เดือนมีนาคม ผลจะแกจัดในเดือนตุลาคม - มีนาคม เมลดจะปลิวจาก
่
็
ื
ื
่
ผลแก่ที แตก ในเดอนมกราคม - ต้นเดอนกุมภาพันธ์ ผลแกมีขนาดยาว 5 - 10 เซนติเมตร กว้าง
็
ี
่
ั
2.5 - 4.0 เซนติเมตร มีสนํ าตาลออน เมลดมีจํานวนประมาณ 59,000 - 76,300 เมล็ด/กิโลกรม
์
เปอรเซนต์การงอกประมาณร้อยละ 80 และจะงอกประมาณ 7 - 10 วัน หลังจากเพาะ
็
ู
การสบพันธ์ตามธรรมชาติ เมอผลแก่จัดเมล็ดก็จะปลวในฤดร้อนเมื อฝนตก เมล็ด ก็จะ
ิ
ื
ื
ุ
ี
ุ
งอกตามบรเวณเชิงเขาและที ลาดชัน กล้าไม้จะเจรญเมื อผ่านพ้นไฟไหม้ได้ 5 ป การสบพันธ์ตาม
ิ
ื
ิ
ธรรมชาติจะเปนไปได้ด ในพื นที ที ถกแผ้วถางและมไฟไหม้ที เกิดจากการ กระทําของมนษย์ และ
ู
ี
ุ
ี
็
ุ
ิ
็
่
การที มนษย์เผาทุ่งหญ้า ก็เปนการสงเสรมให้มีสภาพปาสนสามใบ เกิดข น
่
ึ
์
การกระจายพันธุในธิเบต
่
็
ปาสนสามใบที พบในธเบต เปนพื นที ขนาดเลกตาม Lower Zayul ทาง ตะวันออกเฉยง
ิ
็
ี
ใต้ของธเบต ระดับความสงที พบวาสนสามใบขึ นอยู่ระหว่าง 1,200 - 2,400 เมตร แต่ที พบมากที
ิ
ู
่
สดเปนระดับความสง 1,800 - 2,100 เมตร (Schweinfurth, 1957 cited in Armitage and Burley,
็
ู
ุ
ิ
ิ
1980) ปรมาณนํ าฝนเฉลี ยบรเวณแม่นํ า Luhit ที ไม้สนขึ นอยู่ประมาณ 1,500 - 2,000 มิลลเมตรต่อ
ิ
ู
ี
็
่
้
ู
ป ในฤดรอนอากาศร้อน ลมแรง ซึงเปนชวงเดอนตุลาคม - ธันวาคม ฤดหนาวอากาศเย็น กลาง
ื
ิ
็
คืนจะมีเกล็ดนํ าแข็ง อาจมีหมะบางครั งบางคราว ดินในปาสนจะเปนดินทรายมีขนาดละเอียด สน
่
ู
ิ
็
่
สามใบจะเปนไม้สงเดนในพื นที ทมันขึ นอยู่ ในบรเวณทุ่งหญ้าสะวานาปะปนกับไม้ตระกูลกอ
ี
่
่
่
ี
ปาไม้สนที ขึ นอยู่ถกไฟไหม้ทุกปมามากกว่า 100 ปแล้ว ซงทําให้เกดเปนปาสนที ถาวร
ู
่
ี
ึ
ิ
็
(Kingdonward, 1936 cited in Armitage and Burley, 1980)

