Page 10 - 1222.
P. 10

7


                                            องค์ประกอบความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค


                        พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ. ศ. 2534 มาตรา 4 บัญญัติไว้ดังนี้คือ

               “ ผู้ใดออกเช็คเพื่อช าระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระท าอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้


                   1.  เจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
                   2.  ในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้
                   3.  ให้ใช้เงินมีจ านวนสูงกว่าจ านวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น

                   4.  ถอนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนออกจากบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินตามเช็คจนจ านวนเงินเหลือไม่เพียงพอที่จะใช้เงิน
                       ตามเช็คนั้นได้
                   5.  ห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คนั้นโดยเจตนาทุจริตเมื่อได้มีการยื่นเช็คเพื่อให้ใช้เงินโดยขอบด้วยกฎหมายถ้าธนาคาร

                       ปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คนั้นผู้ออกเช็คมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือจ าคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือ
                       ทั้งปรับทั้งจ า”

                   ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้


                 1.  ต้องการเป็นการออกเช็คเพื่อ “ช าระหนี้” เช่นนายแดงซื้อรถจากนายด าจึงออกเช็คให้นายด าแต่การออกเช็คที่เป็นการ
                    “ก่อหนี้ ” เช่นนายแดงขอยืมเงินนายด า 10, 000 บาทและเขียนเช็ค 10, 500 บาทให้นายด าถือไว้เช่นนี้ไม่ใช่การออกเช็ค

                    เพื่อช าระหนี้เพราะขณะที่ออกเช็คไม่มีหนี
                 2.  หนีนั้นต้องบังคับได้ตามกฎหมายหากไม่ใช่หนี้หรือหนี้ที่บังคับไม่ได้หากธนาคารปฏิเสธการช าระเงินก็ไม่เป็นความผิด

                   ค าพิพากษาฎีกาที่ 5043/2531 จ าเลยออกเช็คเพื่อช าระหนี้เงินต้นรวมดอกเบี้ยที่คิดเป็นอัตราที่กฎหมายก าหนดไว้อยู่ด้วยถือ

                   ว่ามูลหนี้เป็นดอกเบี้ยเป็นโมฆะจ าเลยผู้ออกเช็คไม่มีความผิดทางอาญา

                   ค าพิพากษาฎีกาที่ 7909/2543 ออกเช็คเพื่อช าระหนี้เงินกู้เฉพาะส่วนที่เป็นเงินต้นไม่รวมเอาส่วนที่เป็นดอกเบี้ยที่คิดเป็น

                   อัตราที่กฎหมายก าหนดรวมด้วยถือว่าเป็นเช็คที่มีมูลหนี้จริงและบังคับได้ตามหากธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจ าเลยมี
                   ความผิดทางอาญา

                   ค าพิพากษาฎีกาที่ 870/2543 สัญญาเช่าซื้อจึงต้องท าเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้เช่าซื้อและผู้ให้เช่าซื้อหากไม่ท าเป็นหนังสือ

                   และหรือไม่ลงลายมือชื่อทั้งสองฝ่ายสัญญาเช่าซื้อนั้นก็เป็นโมฆะไม่มีผลบังคับตามกฎหมายผลก็คือเช็คที่จ าเลยผู้เช่าซื้อสั่ง
                   จ่ายหรือออกเพื่อช าระค่าเช่าซื้อนั้นถือว่าไม่มีหนี้ต่อกันเพราะสัญญาเช่าซื้อไม่เกิดจึงถือไม่ได้ว่าเป็นการออกเช็คเพื่อช าระ
                   หนี้ที่มีอยู่จริงและที่จะบังคับกันได้ตามกฎหมายจ าเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้

                   เช็ค

                 3.  ผู้สั่งจ่ายมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นเช่นตั้งใจท าให้เช็คนั้นเบิกเงินไม่ได้ยกตัวอย่างเช็คสั่งจ่ายเงินสดแต่ขีด
                    ฆ่าค าว่าหรือผู้ถือเช็คที่ไม่ประทับตรานิติบุคคลแกล้งลงลายมือชื่อให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิมทั้งนี้ต้องเกิดจากความจงใจไม่ใช่

                    เพราะการประมาทเลินเล่อ
   5   6   7   8   9   10   11   12   13