Page 80 - แม่ไม้ใหญ่แห่งแผ่นดิน ในป่าชุมชน.indd

9/6/2559 BE 10:10 9/6/2559 BE 10:10

๗๙

ั
่
ํ
้
ิ
่
่
ั
ยางมนขน (ภาคใต), ยางมนใส (สตูล), ยางวัด (นครศรธรรมราช),
ู
่
ั
่ ั
ี ้
้
่

่

ํ

่
่
้
ํ
ั นํ้ามันยางทีไดจากการเจาะตนใชผสมชันไมอืนๆ ใชยาเครืองจักสานกันนํารว ยาแนวเรือเพืออุดรอยรัว ่ ทาไม ใชผสมขีเลือยจุดไฟ หรือใชทําไตจุดไฟสองสวาง ใชทานํามนชักเงา ฯลฯ หรือนํามาใชเปนสวนประกอบ ้ ํ ของผลิตภัณฑอืนๆ เชน สีทาบาน หมึกพิมพ นํามนยางเปนอีกหนึงสินคาสงออกทีสําคญของประเทศไทย ซึงปจจุบันชาวบานกยงมการเกบหากันอยู แตกยงไมพอใชจนตองนาเขามาจากตางประเทศเพิมเตม เนือไม สามารถนํามาใชประโยชนในการกอสรางอาคารบานเรือนไดด ยงเมือนามาอาบนํายาใหถูกตองก็จะชวยทําใหมีความ ่ ่ ิ ี ทนทานมากขึน สามารถนําไ
Dipterocarpus kerrii King. DIPTEROCARPACEAE ั ั ละกวิง (มลายู ปตตานี) ๔๖๐ เซนติเมตร (ทีระดับ ๑.๓๐ เมตร) ่ ทิศเหนือ – ใต ๒๓ เมตร ทิศตะวันออก – ตะวนตก ๒๓ เมตร ั 47N0729504 UTM 0078524 ่ ั ้ ั ็ ็ ่ ลม ใหความชุมชืน ควบคุมอณหภูมในอากาศ ปองกันการพงทลายของหนาดิน ฯลฯ ิ

: : : ู : ๓๐ เมตร : ขนาดความกวŒาง/ยาว ของเรือนยอด : : : ่ ี ั ็ ั ่ ี  ี  ุ
ยางมันหมู ชือวิทยาศาสตร ่ ชือวงศ ่ ชือทŒองถิน ่ ่ ขนาดความโต ความสูง จุดพิกัด ่ ้ ่ ่ ้ มาเลือยไสกบตกแตงใหเรยบไดงาย ่ ู ้ 

หมูที ๗ ตําบลท‹าเรือ อําเภอโคกโพธิ จังหวัดป˜ตตานี
ยางมันหมู ณ ป†าชุมชนบŒานโคกขีเหล็ก ้ ์ สํานกจดการทรพยากรปาไมที ๑๓ (สงขลา) ่ ั และไมเห็นดวยกับการกันพนทีสวนนีไวเปนปา ยงพบ ั ้ ่ ื ้ การลักลอบตัดไมในพื้นที แตคนทเปนแนวรวมในการ ี ่ ่ พรรณไมทพบในปาชมชนแหงนเปนพรรณไม ี ้ ุ ปาดิบชืนเปนหลัก เชน ยางมนหม กฤษณา และยงพบ ั ู ั ่ ตนไมขนาดใหญจํานวนมาก การใชประโยชนในพืนที ้ ปาชุมชนมการเก็บเห็ด สมนไพร ไมขนาดเล็กสําหรับ ุ ู ทําดามมีด ดามพรา สวนสัตวปาพบคือ ไกปา นก ง เหลือม งจงอาง นอกจากนียังเปนสถานทีศกษาดูงาน ึ ่ ้ และการศึกษาวิจยของสถาบันการศึกษาตางๆ อีกดวย ปาชุมชนแหงนีไดรบอนมัติจากอธิบดีกรมปาไมจด

ั
อนรกษก็มีอยไมนอย   ู ั ุ ี ่ ้ ี ู ั ั ้ ้ ั ้ ่ ํ ้ ิ ี ่  ี ่ การในเนอที ๘๕-๐-๐ ไร ่ ้ ื
ั

่
เปนปาดิบชืนบน
่ ี ่
‹
ี ่ ้ ิ ่ ี
ั ้ ํ ้
้ ี ่ ้
 ื ้
ํ  ื
ู ์ ิ ิ
) !à @ : @ ! G!# Ą Ą บริเวณทจดทําโครงการปาชุมชนบานทาเรือ แตเดมเปนพนทสงวนของชุมชนซึงเกิดปญหาการ ่ บกรกพนทมาโดยตลอด จนกระทังป พ.ศ. ๒๕๓๐ ่ นคมสรางตนเองโคกโพธิไดรวมกับผนาชุมชนและ ์ ราษฎรในพืนทีทาการังวดแนวเขตโดยรอบพืนทเปน ั เสนตรง แลวตดถนนเปนเสนทางสัญจรรวมถึงเปนแนว เขตพืนทดวย ทังน เพอบรรเทาปญหาความขัดแยงท ื ่ เกดจากการบุกรกขยายพืนทีทากินของราษฎรบางสวน ํ ่ ้ ภายหลงเมอนคมสรางตนเองโคกโพธ ไดเขามาจดสรร ทีทํากินใหแกราษฎร พนทบริเวณนีจึงถูกสงวนไวเปน ้ ี ่ ื ้ ปาสมบูรณตามระเบียบของการจัดตงนคมสรางตนเอง ้ ั ็ ี ้ พนทราบผนสดทายของชมชนเปนแหลงนาซับ ุ ทีส
øô øô ßE)H)ĊG3 E3 E$! ! G!#: ) !à ! < < ĉ ĉ E$ ĉ ĉ E3 ĉ H)ĊG3 ĉ ĉ ßE) ĉ ั ่ ี ี ่ ้ ื ิ ี ่ ื ้ ุ ุ ิ ํ ่ ้ ั ้ ี ้ ี ่ ้ ุ ิ  ิ ื ่ ั ่ (๒๐%ของพนทนคม) ิ ี ่ ื ้ ปาชุมชนบานโคกขเหลก ุ ื ี ่ ื ้ ั ํ ่  ี ่ ี ่ ี ั ื ่ ั ํ ั ๗๘ AW_Forest_Book_84_59-09-05.indd 78-79 AW_Forest_Book_84_59-09-05.indd 78-79