Page 45 - book_kingpai
P. 45
7
ั
2.1.1.1 ศิลปวฒนธรรมประเพณี
ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอยู่คู่คนใต้มาช้านาน ตั้งแต่เด็กจนโตถูกปลูกฝังให้
มีใจรักในวัฒนธรรมประเพณี ทำให้เมื่อถึงเทศกาลสำคัญ ลูกหลานต่างกลับบ้านมาเพื่อสืบสาน
ประเพณี
เนื่องจากภูมิศาสตร์ของภาคใต้ ทำให้มีคนที่ต่างภาษาต่างวัฒนธรรมอย่างหลากหลาย
เดินทางเข้ามาภาคใต้มีทั้งชาว พุทธ ชาวมุสลิม ต่างเชื้อชาติกัน เช่น คนไทย คนจีน และ
ผู้ที่มีเชื้อสายมาเลย์ รวมทั้ง ชาวเมือง เช่น ชาวเล อาศัยอยู่กัน วัฒนธรรมภาคใต้จึงมี
รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ รวมไปถึงศิลปะการแสดง
การละเล่น และประเพณี เช่น หนังตะลุง มโนราห์ สุทธิคำพร หนูสง.(2557).
(1) หนังตะลุง
หนังตะลุงเป็นการแสดงแสงเงาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เมื่อมี
การจัดงานวัด หนังตะลุงเป็นการแสดงที่ขาดไม่ได้ โดยคนเฒ่าคนแก่จะพาหลานเล็กๆกันมานั่งรอก่อน
หนังจะแสดง เป็นภาพที่อบอุ่น การละเล่นหนังจะถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของคนใต้
ิ
ชวน เพชรแก้ว (2523) กล่าวว่าหนังตะลุง คอ ศลปะการแสดงประจ าท้องถินอย่าง
่
ื
็
หนึ่งของภาคใต้ เปนการเล่า เรื่องราวทีผูกร้อยเปนนิยาย ด าเนินเรื่องด้วยบทร้อย
่
็
่
็
่
่
กรองทีขับร้องเปนส าเนียงท้องถิน หรือทีเรียกกันว่าการ "ว่าบท" มีบทสนทนาแทรก
็
เปนระยะ และใช้การแสดงเงาบนจอผ้าเปนสิ่งดึงดูดสายตาของผู้ชม ซึงการว่าบท
็
่
การสนทนา แต่เดิมนิยมเล่นในงานสมโภชหรืองานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ของชุมชนหรือ
หมู่บ้านเท่านั้น หลังจากนั้นได้รับความนิยมของผู้คนจึงรับไปแสดงกันในงานประเพณี
งานวัดหรืองานศพ หนังตะลุงนอกจากจะให้ความสนุกสนาน และครึกครื้น แล้วยัง
สะท้อนค่านิยมและโลกทัศน์ของชาวใต้ที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่องที่แสดงอีกด้วย สมัยก่อน
แสดงเรื่องรามเกียรติ์เป็นหลัก ต่อมานายหนังได้เลือกเรื่องอื่น ๆ ในวรรณคดีไทยหรือ
ชาดก เช่น ไกรทอง ไชยเชษฐ์ แก้วหน้าม้า เป็นต้น ในการแสดงจะทำรูปหนังจากแผ่น
หนังสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนังวัว หนังควาย หนังเก้ง หรือหนังเสือ (รูปฤษี)
หนังตะลุง หรือที่ชาวปักษ์ใต้เรียกว่า “หนัง” หรือ “หนังลุง” หรือ “หนังควน”
สันนิษฐานว่าการมหรสพที่เรียกว่าหนังตะลุงได้มีแพร่หลายขึ้นที่เมืองพัทลุงก่อนที่อน
ื่
คนทั่วไปจึงเรียกหนังที่มาจากจังหวัดพัทลุงว่า “หนังพัทลุง” หรือ “หนังพัดลุง” จนเป็น
หนังลุงในภาษาปักษ์ใต้ และเป็น “หนังตะลุง” ในภาษากลางซึ่งกร่อนมาจาก “หนัง
พัทลุง” ในภาคใต้โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลาเป็นต้น

