Page 37 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์
P. 37

การจำาแนกซากดึกดำาบรรพ ์  หน้า 32






























            ตัวอย่างการจำาแนกซากดึกดำาบรรพ์ที่เป็นตัว (Body fossil) และรอยซากดึกดำาบรรพ์ (Trace fossil)

        การเรียกชื่อซากดึกดำาบรรพ์

               นักบรรพชีวินวิทยาถือว่าซากดึกดำาบรรพ์เป็นสิ่งที่เคยมีชีวิตมาก่อนในอดีต  จึงสามารถ
        ใช้หลักเกณฑ์การตั้งชื่อสิ่งมีชีวิตต่างๆ  ที่ได้รับการกำาหนดได้อย่างเป็นสากล  คือ  การตั้งชื่อซาก
        ดึกดำาบรรพ์สัตว์รวมถึงสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำา เช่น ฟอแรมมินิเฟอราและเรดิโอลาเรีย จะใช้ข้อกำาหนดของ

        International Code of Zoological Nomenclature (ICZN) และซากดึกดำาบรรพ์พืชรวมถึง
        สาหร่ายจะใช้ International Code of Botanical Nomenclature (ICBN) โดยอาศัยการศึกษา
        รูปลักษณะสัณฐานและรูปแบบโครงสร้างชิ้นส่วนที่หลงเหลือซากถูกเก็บรักษาไว้ในชั้นหินเท่านั้น

               การเรียกชื่อสิ่งมีชีวิต  ในปัจจุบันจะมี  2  แบบ  ได้แก่  ชื่อสามัญ  (Common  name)
        คือ  ชื่อเรียกทั่วไปซึ่งจะเรียกต่างกันออกไปตามแต่ละท้องถิ่น  และชื่อวิทยาศาสตร์  (Scientific
        name) คือ ชื่อที่ใช้เรียกอย่างเป็นทางการในระดับสากล โดยใช้ระบบทวินาม (Binomial name)
        ซึ่งกำาหนดเป็นภาษาละติน  ประกอบด้วยคำาศัพท์  2  ส่วน  คือ  ชื่อทั่วไปหรือชื่อสกุล  (Generic
        name)  และ  ชื่อเฉพาะหรือชื่อคุณลักษณะ  (Specific  epithet)  โดยกำาหนดให้ใช้ตัวอักษร
        ตัวแรกเป็นตัวพิมพ์ใหญ่และชื่อทั้งหมดพิมพ์ด้วยตัวเอียง ทั้งนี้ สำาหรับสิ่งมีชีวิตที่ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์
        ไว้ก่อนหน้าศตวรรษที่  20  จะมีการพิมพ์ที่แตกต่างกัน  ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำาหนดขึ้น
        ภายหลัง จึงถือเป็นกรณียกเว้นให้สามารถใช้ชื่อตามที่ผู้เขียนได้เขียนไว้แล้วได้เลย
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42