Page 88 - ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์
P. 88

หน้า  83  ความรู้เบื ้ องต้นเกี ่ ยวกับซากดึกดำาบรรพ ์




        8. ไดโนเสาร์ (Dinosaurs)


        ลักษณะทั่วไป :   จัดอยู่ในชั้นสัตว์เลื้อยคลาน (Class Reptilia) ในตระกูลไดโนซอเรีย (Clade
        Dinosauria) ถูกตั้งชื่อโดยเซอร์ ริชาร์ด โอเวน (Sir Richard Owen) ในปี ค.ศ. 1841 แปลว่า
        สัตว์เลื้อยคลานที่น่ากลัว  (terrible  reptile)  ถือเป็นสัตว์ที่ครองโลกมาอย่างยาวนานกลุ่มหนึ่งที่
        มีวิวัฒนาการที่หลากหลาย  และพบซากดึกดำาบรรพ์เกือบทั่วทุกมุมโลก  มีขนาดตั้งแต่เล็กไม่เกิน
        50 เซนติเมตร ไปจนถึงขนาดใหญ่เกือบ 40 เมตร แบ่่งตามลักษณะกระดูกเชิงกรานได้เป็น 2 กลุ่ม
        ใหญ่ คือ
               (1) กลุ่มที่มีกระดูกเชิงกรานแบบสัตว์เลื้อยคลานหรือซอริสเชียน (Reptile-hipped
        or  Saurischians)  คือ  มีกระดูกหัวหน่าว  (Pubis)  ชี้ไปด้านหน้าและกระดูกก้น  (Ischium)
        ชี้ไปด้านหลัง ในกลุ่มนี้แบ่งเป็น 2 จำาพวก คือ พวกซอโรพอด (Sauropods) คือ พวกที่มีคอ
        ยาว หางยาว กินพืช และเดิน 4 ขา และพวกเทอโรพอด (Theropods) พวกที่กินเนื้อ และเดิน
        2 ขา รวมถึงนกซึ่งถือเป็นไดโนเสาร์กลุ่มเทอโรพอดที่ยังเหลือรอดอยู่ในปัจจุบัน
               (2) กลุ่มที่มีกระดูกเชิงกรานแบบนกหรือออร์นิธิสเชียน (ฺBird-hipped or Ornithischians)
        คือ มีกระดูกหัวหน่าว (Pubis) และกระดูกก้น (Ischium) ชี้ไปด้านหลังเหมือนกัน ในกลุ่มนี้มีหลาย
        จำาพวก เช่น พวกเซอราทอปเซียน (Ceratopsians) คือ พวกที่มีเขาและปากคล้ายปากนกแก้ว
        เดิน 4 ขา (บางชนิดเดิน 2 ขา) พวกแพคีเซฟาโลซอร์ (Pachycephalosaurs) คือ พวกที่มี
        กะโหลกหนา เดิน 2 ขา พวกสเตโกซอร์ (Stegosaurs) คือ พวกที่มีแผ่นกระโดงหลัง เดิน 4 ขา
        พวกแองคีโลซอร์ (Ankylosaurs) คือพวกที่มีเกราะ เดิน 4 ขา และพวกออร์นิโธพอด (Ornithopods)
        คือ พวกที่เดินได้ทั้ง 2 ขาและ 4 ขา บางชนิดมีปากคล้ายปากเป็ด กลุ่มออร์นิธิสเชียนส่วนใหญ่กิน
        พืชเป็นอาหาร
        ช่วงเวลาที่ปรากฎบนโลก :   ยุคไทรแอสซิกตอนปลาย (ประมาณ 235 ล้านปีก่อน)
        สถานะปัจจุบัน :   สูญพันธุ์เฉพาะไดโนเสาร์กลุ่มที่ไม่ได้มีสายวิวัฒนาการไปทางนก (Non-avian
        dinosaurs) เมื่อสิ้นสุดยุคครีเทเชียส (66 ล้านปีก่อน) (มีจำานวนกว่า 1,500 สปีชีส์ ไม่รวมกลุ่มนก)
        การศึกษาในปัจจุบันพบว่านกเป็นลูกหลานที่ยังสืบสายวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์
        หินที่พบบ่อย :   หินทรายแป้ง หินโคลน หินทราย
        ลักษณะซากดึกดำาบรรพ์ :   มักพบฟัน  กะโหลก  และโครงกระดูก  ฝังตัวอยู่ในหิน  ส่วนใหญ่มี
        ขนาดใหญ่ผิดปกติเมื่อเทียบกับสัตว์ทั่วไป  สามารถแยกออกจากเนื้อหินได้จากลักษณะเนื้อกระดูก
        ที่เป็นรูพรุน ซึ่งแตกต่างจากเนื้อหินอย่างชัดเจน
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93