Page 297 - วิทยาศาตร์ พว21001
P. 297
289
ี
ภาพท 14 การใช้มือวัดมุม
ในคนทมีดวงจันทรเต็มดวง ให้เราลองกํามือชูน วก้อยและเหยียดแขนออกไปให้สด ทาบน วก้อย
์
ื
ี
ิ
ุ
ิ
ิ
์
ึ
กับดวงจันทร เราจะพบว่าน วก้อยของเราจะบังดวงจันทรได้พอด เราจงบอกได้ว่าดวงจันทร ์
ี
์
ี
ื
ิ
่
ิ
ิ
มี “ขนาดเชงมุม (Angular Diameter)” เทากับ ½ องศา โดยขนาดเชงมุม ก็คอ ระยะเชงมุมทวัดระหว่าง
ิ
่
ึ
่
์
ขอบของดวงจันทรนั นเอง ขนาดเชงมุมของวัตถุข นอยูกับระยะหางของวัตถุกับผู้สังเกต และขนาดเส้น
ิ
ผ่านศูนย์กลางจรงของวัตถุนั น
ี
ภาพท 15 ขนาดเชงมุม
ิ
ิ
่
่
ยกตัวอย่าง: ลองจนตนาการภาพลูกบอลวางอยูหางจากเรา 1 เมตร ให้เราลองวัดขนาดเชงมุม
ิ
็
ของลูกบอล จากนั นเลื อนลูกบอลให้ไกลออกไปเปนระยะทาง 3 เทา ขนาดเชงมุมจะลดลงเปน 1 ใน 3
่
ิ
็
ของขนาดที วัดได้กอนหน้าน
่
ี
่
ิ
่
ิ
่
ดังนั น “คาขนาดเชงมุม” คือ อัตราสวนของ ขนาดจรง ตอ ระยะหางของวัตถุ
่
่
กลุมดาว
่
แม้ว่าจะมีกลุ่มดาวบนท้องฟาอยูถึง กลุ่ม แตในทางปฏิบัตมีกลุ่มดาวจักรราศี 12 กลุ่ม และ
ิ
้
่
ั
ี
็
่
่
ิ
กลุ่มดาวเดนอื นอีกประมาณเทากันทเหมาะสมสําหรบการเร มต้น กลุ่มดาวเหล่าน ีก็มิได้มีให้เหน
ุ
่
ตลอดเวลาเหตเพราะโลกหมุนรอบตัวเอง และโคจรรอบดวงอาทตย์ กลุ่มดาวสว่างแตละกลุ่มจะไม่
ิ
้
ิ
็
ปรากฏให้เหนเฉพาะเมื อกลุ่มดาวนั นขึ นและตกพรอมกับดวงอาทตย์

