Page 155 - จันทร์จืรา เดชแพง
P. 155
52
6. พ่นเพนิแทรนต์ (Penetrant) ลงบนผิวชิ้นงานบริเวณที่จะทดสอบ ควรระวังการไหลของ
สารแทรกซึมที่อาจเกิด จากผิวชิ้นงานไม่ได้ระนาบหรือเป็นสันนูนซึ่งอาจมีผลให้บางบริเวณได้รับเพ
นิแทรนต์ (Penetrant) ไม่เพียงพอ ในกรณีนี้ควร พ่นเพนิแทรนต์ (Penetrant) เพิ่มเติมตามความจ าเป็น
หลังจากพ่นเพนิแทรนต์ (Penetrant) เสร็จให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 5 นาที หรือมากกว่า ตามแต่ชนิด
ของข้อบกพร่องและข้อแนะนาของบริษัทผู้ผลิตสารแทรกซึมหรือตามระเบียบปฏิบัติงานที่ ต้องการ
ทดสอบ
7. ใช้เศษผ้าเช็ดเพนิแทรนต์ (Penetrant) ส่วนเกินที่ติดอยู่บนผิวชิ้นงานออกจนหมดจนเหลือ
เฉพาะส่วนที่เป็นคราบที่ ไม่สามารถเช็ดออกได้ (ในทางปฏิบัติคือไม่มีสีของสารแทรกซึมติดอยู่ที่เศษ
ผ้าส าหรับสารแทรกซึมแบบมองเห็นได้ด้วยแสงสว่าง)
8. พ่นริมูฟเวอร์ (Remover) ลงบนเศษผ้าและเช็ดบนชิ้นงานอย่างระมัดระวังเพื่อก าจัดเพนิ
แทรนต์ ส่วนเกินที่ติดอยู่บนผิวชิ้นงานทดสอบออก สังเกตสีหรือการเรืองแสงของเพนิแทรนต์ ว่าเช็ด
ออกหมดหรือไม่ ระวังไม่ให้เช็ดผิวชิ้นงานมากเกินไปเพราะอาจทาให้เพนิแทรนต์ ที่อยู่ใน
ข้อบกพร่องหลุดออกมาด้วย และห้าม พ่นริมูฟเวอร์ (Remover) ลงบนผิวชิ้นงานโดยตรง
9. ภายหลังเช็ดชิ้นงานให้สะอาดแล้วให้พ่นดีเวลลอปเปอร์ (Developer) ลงบนชิ้นงานอย่าง
ระมัดระวัง โดยต้องท าให้ดีเวลลอปเปอร์ (Developer) กระจายตัวอย่างสม ่าเสมอและมีลักษณะเป็น
แผ่นฟิล์มบางบนชิ้นงาน การพ่นดีเวลลอปเปอร์ (Developer) หนาเกินไปอาจทาให้ไม่สามารถทดสอบ
หาข้อบกพร่องขนาดเล็กได้และถ้าชิ้นงานไม่สะอาดเพียงพอ พื้นผิวของ ดีเวลลอปเปอร์ (Developer)
จะเป็นสีชมพูอ่อนซึ่งท าให้การแปลผลยากขึ้น
10. เมื่อดีเวลลอปเปอร์ (Developer) แห้งให้สังเกตการเปลี่ยนสี หรือการเรืองแสงของดีเวลล
อปเปอร์ (Developer) ที่ เกิดจากการดูดซับเพนิแทรนต์ (Penetrant) ออกจากข้อบกพร่อง และพิจารณา
รอยบ่งชี้ที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากข้อบกพร่องจริงหรือ เป็นรอยบ่งชี้แปลกปลอม โดยควรสังเกตจุดเริ่มต้น
และการเกิดภาพของรอยบ่งชี้เพื่อประกอบการพิจารณาว่ารอยบ่งชี้ที่ตรวจ พบเป็นรอยบ่งชี้ชนิดใด
การแปลผลการทดสอบให้กระท าภายหลังพ่นดีเวลลอปเปอร์ (Developer) อย่างน้อย 7 นาที และไม่
เกิน 60 นาที
11. การท าความสะอาดภายหลังการทดสอบจะกระท าหลังจากการประเมินและท าเอกสาร
เสร็จสิ้นโดยใช้ กระบวนการที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนของชิ้นงานทดสอบ

