Page 55 - สาราสารกถา พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี.
P. 55
12
สาราสารกถา
ี
ได้เป็นครูอาจารย์ในวิชาน้ จะได้ไม่ต้องรู้สึกตัวเองว่า มีปมด้อย
ในหมู่ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย
วิชำพระพุทธศำสนำ ดับทุกข์ได้
ั
เพราะส่วนใหญ่ ครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาน้น โดย
ั
ท่วๆ ไป บางทีเราก็มองกันว่า เป็นพวกท่กล้าประพฤติให้ล้าสมัย
ี
คนท่จะสมัครใจเต็มอกเต็มใจท่จะเข้ามาสอนในวิชาพระพุทธ-
ี
ี
ั
ศาสนาน้น อยู่ในระดับพวกครูอาจารย์ท่มีไอคิวตาๆ หรืออะไร
�
่
ี
ทานองน้น ท่ต้องมาสอนวิชาน้ เพราะเป็นวิชาท่ล้าสมัย รู้สึก
ั
ี
�
ี
ี
กันมาอย่างนั้นจริงๆ จนกระทรวงศึกษาธิการต้องพยายามปรับปรุง
ั
ุ
ิ
็
็
็
่
้
ี
อะไรตางๆ นานา ทปรบปรงกไมไดเกดจากความเตมอกเตมใจ
่
่
ั
ของกระทรวง แต่เกิดจากการบีบค้นของหลายๆ ด้าน จนกระทรวง
้
จริงๆ เองก็พยายามจะไม่ให้มีวิชาพระพุทธศาสนาด้วยซาไป
�
ดังที่เราได้รู้ได้ทราบกันโดยทั่วๆ ไป
ื
สาเหตุท่เป็นอย่างน้ ไม่ใช่เน่องมาจากว่า วิชาพระพุทธ-
ี
ี
ั
ศาสนาน้น เป็นวิชาท่คราครึล้าสมัย ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้
�
ี
่
ความจริงที่ท�าให้วิชาพระพุทธศาสนาเราได้รับความสนใจน้อย
ี
ี
ั
ั
ื
น้น ก็เน่องจากว่า เราไม่ค่อยได้สนใจเท่าท่ควรในวิชาน้ ท้งๆ
ท่เราทุกคนรู้กันอยู่ว่า สถาบันท่ประกอบขึ้นเป็นชาติบ้านเมือง
ี
ี
ั
ของเรามีอยู่ ๓ สถาบัน คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตรย ์
ิ
ั
และพระศาสนาน้น ก็เป็นหลักอันหน่งของชาติบ้านเมืองของเรา
ึ

