Page 167 - ประวัติศาสตร์การสงคราม
P. 167
165
ที่มั่นดัดแปลงแข็งแรง ถึงแม้ว่าฝ่ายเราจะใช้ บ.โจมตีทางอากาศ และใช้ ป.ทำการยิง แต่ก็ไม่สามารถรวม
อำนาจการยิง ณ ตำบลใดตำบลหนงึ่ ไดเ้ ตม็ ที่ เนอ่ื งจากเปา้ หมายมหี ลายแหง่
2. บทเรียนจากการสูญเสียจากการตีโต้ตอบของข้าศึก ก็คือ การดัดแปลงที่มั่นตัง้ รบั โดย การขุดคูยงิ
หลมุ บคุ คล และบังเกอร์ จะต้องรีบกระทำในทันทีเมือ่ ยึดท่ีหมายได้ แต่เน่อื งจากหนว่ ยมีเวลานอ้ ยและขาดวัสดุ
ป้อมสนาม เช่น กระสอบทราย ขอนไม้ที่จะใช้ทำบังเกอร์หลังคาปิด ดังนั้นหน่วยจึงควรเตรียมการตั้งรับด้วย
เครือ่ งกดี ขวาง และกับระเบิดแนวหน้า ต้องรบี กระทำตง้ั แต่ยังไมม่ อื ค่ำ เพราะโดยปกติแล้วขา้ ศึกมักจะเข้าตีใน
เวลากลางคนื โดยมีอาวธุ หนกั ยงิ สนับสนุนการเขา้ ตีทกุ ครั้ง
3. ปรส.เป็นอาวธุ ท่ีมีประสทิ ธภิ าพในการรบบนภูเขา เพราะบนสันเขาแคบ ๆ หรือในพ้ืนท่ีอับกระสนุ
นั้น ป. ไม่สามารถทำการยิงได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้น ปรส.ยังมีขีดความสามารถในการทำลายสิ่งกีดขวาง
และบังเกอร์ได้เป็นอย่างดี การลดอันตรายจาก ปรส. กระทำได้โดยการสร้างบังเกอร์ให้เสมอกับพื้น และการ
ต่อสู้ในคูยิงจะได้รับอันตรายจาก ปรส.น้อยมากบังเกอร์ที่สูงจากพื้นดินโดยใช้กระสอบทรายก่อขึ้นมาจะเปน็
อนั ตรายอย่างยิ่ง
4. หน่วยไม่ได้คำนึงถึงความสำคัญของการระวังปอ้ งกัน การจัดที่ฟังการณ์ และการจัดกำลังซุม่ โจมตี
รอบฐานท่ีมน่ั ในเวลากลางคืน ทำให้ข้าศึกสามารถเข้าถงึ ฝ่ายเราได้อย่างรวดเร็ว โดยทีฝ่ า่ ยเราไม่สามารถทราบ
การเข้ามา และร้งั หน่วงการเข้ามาของขา้ ศึกได้
5. การปฏิบัติในครั้งน้ี ทุกหน่วยทำการตั้งรับอยู่ในฐานที่ม่ันทั้งหมด ไม่มีหน่วยเคลื่อนที่ทำให้เสมือน
ทุกหน่วยติดอยู่กับที่ จึงเกิดมีช่องว่าง ข้าศึกสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเสรีในพื้นที่นอกเหนือไปจากที่มั่น
ของฝ่ายเรา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือในเวลาที่มีทัศนวิสัยเลว ซึ่งข้าศึกมีขีดความสามารถสูงในการ
ปฏบิ ัติในหว้ งระยะเวลาดงั กล่าว
6. การขาดการติดต่อประสานงานที่ดี และขาดการสนับสนุนซึ่งกันและกันเป็นผลทำให้กำลังมาก
ทใี่ ชร้ บ กลายเป็นกำลงั นอ้ ยไป ขา้ ศึกท่จี ะเขา้ ทำการรบตอ่ ฝ่ายเราด้วยการทมุ่ เทกำลงั เข้าทำลายเปน็ จุดๆ หรือ
เป็นตำบล ๆ โดยทีฝ่ ่ายเรามิได้ใหก้ ารสนับสนนุ หรือดำเนินกลยุทธชว่ ยเหลือหน่วยท่ีถูกขา้ ศึกตเี ลย
7. ในสถานการณ์ทีเ่ ป็นฝา่ ยรกุ หรือเข้าตี การเคลือ่ นทอ่ี ยา่ งเช่ืองชา้ และอุย้ อา้ ยเนอื่ งจากทหารต้องขน
ยุทโธปกรณแ์ ละสัมภาระที่ไมจ่ ำเปน็ ตดิ ตวั ไปดว้ ยเป็นเหตุให้ทหารเกดิ ความเหนด็ เหนือ่ ยเมอื่ ยล้า และขาดความ
คล่องตวั ในการยทุ ธ
8. ผู้บังคบั บัญชาขาดลกั ษณะผนู้ ำท่ีดี และไมเ่ อาใจใส่ดแู ลความเปน็ อยู่ของทหาร ทำให้ทหารไม่เคารพ
และไม่มีความเชื่อมั่นในตัว ผบ.ร้อย เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คับขัน จึงไม่สามารรถที่จะควบคุมบังคบั
บัญชาทหารได้ ทำใหเ้ กิดความระสำ่ ระสายขึน้ ภายในหน่วย
9. การติดต่อสื่อสาร พนักงานวิทยุมักไม่ค่อยมีวินัยในเรื่องการรักษาความลับในการส่งข่าวและ
ผู้บังคับหน่วยไม่ค่อยมองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงไม่ค่อยกวดขันพนักงานวิทยุ ทำให้เกิดผลเสียหายเป็น
อย่างมาก เพราะขา้ ศึกมกั จะทราบความเคลื่อนไหวของฝา่ ยเราตลอดเวลา
10. บทเรียนที่สำคัญประการหนึ่งก็คือ การใช้กำลังรบในลักษณะอาสาสมัครจากประชาชนซึ่งมิใช่
กองทัพทหารประจำการมาแตย่ ามปกติน้นั จะสามารถใชไ้ ด้ผลดีมีประสิทธิภาพและประหยัดมาก การท่ีจะทำ

