Page 100 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 100

98


                          1
               หมำยเหตุ :   ประกำศส ำนักงำนคณะกรรมกำรวิจัยแห่งชำติ (วช.) เรื่อง กำรรับข้อเสนอโครงกำรเพื่อขอรับทุนกิจกรรม
                          ส่งเสริมและสนับสนุนกำรวิจัยภำยใต้โครงกำรควำมร่วมมือเพิ่มมูลค่ำสิ่งประดิษฐ์สู่กำรใช้ประโยชน์
                          (co-funding) ประจ ำปี 2559

                                 กำรสนับสนุนทุนวิจัยเงินรำยได้ปีงบประมำณ 2559 ส ำนักวิจัยและพัฒนำมหำวิทยำลัยสงขลำนครินทร์
                         2
                         3  กำรส ำรวจค่ำตอบแทนภำคเอกชน พ.ศ. 2556 ส ำนักงำนสถิติแห่งชำติ กระทรวงเทคโนโลยีสำรสนเทศและ


                           กำรสื่อสำรและกำรสัมภำษณ์เชิงลึก
                         4   ในกำรค ำนวณมูลค่ำผลผลิตส ำหรับผลงำนตีพิมพ์ จะถ่วงน ้ำหนักด้วยระดับคุณภำพผลงำน ตั้งแต่ 0.25 – 1

                            ตำมแหล่งตีพิมพ์




                       3. กำรประเมินผลกระทบซึ่งเป็นกำรน ำผลผลิตไปใช้โดยบุคคลที่สำมจะรำยงำนเป็นผลกระทบ

               (impact) ที่เกิดจำกโครงกำรวิจัยในลักษณะคุณค่ำหรือประโยชน์ที่เกิดขึ้นจำกผลผลิตของโครงกำรวิจัย

               แต่ไม่ตำมไปตีมูลค่ำ เพรำะอำจจะเกิดโอกำสให้ผลกำรประเมินสูงเกินจริง (over claim) กำรตีค่ำผลกระทบ

               ดังกล่ำวยังรวมถึงผลกระทบเชิงบวกที่เกิดขึ้นกับนักวิจัยและบัณฑิตที่ร่วมโครงกำรวิจัยในฐำนะผู้ช่วยวิจัยด้วย

               แต่จะระบุผลกระทบในเชิงคุณภำพเท่ำนั้น


               ผลการวิจัยและการอภิปราย


                       ชุดโครงกำรวิจัยได้รับงบสนับสนุนวิจัยเป็นจ ำนวนเงิน 11,888,370 บำท โครงกำรที่ 1 – 11
               ได้รับงบประมำณรวม 8,924,370 บำท งบประมำณที่โครงกำรย่อยได้รับอยู่ระหว่ำง 488,400 บำท

               ถึง 1,098,000 บำท ทั้งนี้มี 3 โครงกำรที่ได้รับทุนประมำณ 1 ล้ำนบำท ส ำหรับโครงกำรศูนย์วิจัยและพัฒนำ

               มะละกอบริโภคสดจังหวัดมหำสำรคำมและกลุ่มอีสำนตอนกลำง ได้รับทุน 2,694,000 บำท ส ำหรับระยะเวลำ

               3 ปี จำก สกว. และในระหว่ำง 3 ปีที่ด ำเนินงำน ได้รับกำรสนับสนุนจำกมหำวิทยำลัยต้นสังกัด จำก สวทช.

               และจำก อบต. รวมเป็นเงิน 1,300,000 บำท ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่เสริมกำรขยำยผลลัพธ์ให้แก่โครงกำร


                       หัวหน้ำโครงกำรผู้รับทุนใน 12 โครงกำรมีควำมเชี่ยวชำญในสำขำสรีรวิทยำ (ร้อยละ 50) สำขำอำหำร

               และโภชนำกำร (ร้อยละ 33) สำขำเภสัชวิทยำ (ร้อยละ 17) ในขณะที่รับทุนวิจัยครึ่งหนึ่งของหัวหน้ำโครงกำร

               ด ำรงต ำแหน่งผู้ช่วยศำสตรำจำรย์และร้อยละ 25 ครองต ำแหน่งรองศำสตรำจำรย์ ที่เหลือครองต ำแหน่ง
               อำจำรย์และนักวิจัย ต่อมำในระหว่ำงประเมินผลงำน พบว่ำ หัวหน้ำโครงกำรได้ครองต ำแหน่งสูงขึ้น 4 รำย

               (หรือ 1 ใน 3) คือ เปลี่ยนจำกอำจำรย์เป็นผู้ช่วยศำสตรำจำรย์ 1 รำย จำกผู้ช่วยศำสตรำจำรย์

               เป็นรองศำสตรำจำรย์ 2 รำยและนักวิจัยเปลี่ยนเป็นนักวิจัยช ำนำญกำร 1 รำย
   95   96   97   98   99   100   101   102   103   104   105