Page 121 - Proceeding_รวมปก_Neat
P. 121

114



               บทน า


                       กำรแพร่ระบำดของเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 นับตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ. 2563 จนถึงเดือนมีนำคม

               พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมียอดจ ำนวนผู้ติดเชื้อสะสมประมำณ 2.8 หมื่นคน แต่ภำยในช่วงระยะเวลำ 3 เดือน

               ถัดมำ พบว่ำยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่ำ ประมำณ 3.17 แสนคนและตัวเลขนี้น่ำจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

               ตำมแนวโน้มจ ำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในระดับเกือบ 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่มีกำรระบำด

               ของโรคโควิด-19 ผลที่ตำมมำก็คือเกิดกำรเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่ำงรวดเร็ว โดยจ ำนวนผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่

               ปี พ.ศ. 2563 เพิ่มขึ้นจำก 94 คน ณ สิ้นเดือน มีนำคม พ.ศ. 2564 จนสูงกว่ำ 2.5 พันคน ณ วันที่ 9 กรกฎำคม
               พ.ศ. 2564 (ทีดีอำร์ไอ, 2562)


                       จำกสถำนกำรณ์ดังกล่ำวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่ำงมำก ซึ่งทำงธนำคำรแห่งประเทศไทย

               (ธปท.) ประเมินว่ำเศรษฐกิจไทยในปี พ.ศ. 2563 จะหดตัวถึงร้อยละ 5.3 เนื่องมำจำกประเทศไทยยังคงพึ่งพำ

               รำยได้จำกต่ำงประเทศในระดับที่สูงท ำให้มูลค่ำควำมเสียหำยสูงตำมไปด้วย โดยข้อมูลเดือนเมษำยน

               ปี พ.ศ. 2563 พบว่ำภำคกำรท่องเที่ยวซึ่งมีขนำดร้อยละ 17 ของ GDP หดตัวร้อยละ 100 กำรลงทุน

               ในประเทศอยู่ในระดับต ่ำมำนำน ธุรกิจขนำดกลำงและขนำดย่อม (SMEs) และแรงงำนส่วนใหญ่ไม่สำมำรถ

               แข่งขันได้และมีปัญหำหนี้ครัวเรือนสูง ซึ่งถือเป็นข้อจ ำกัดส ำคัญของกำรฟื้นตัว (เสำวณี จันทะพงษ์และทศพล

               ต้องหุ้ย, 2563) ประกอบกับมำตรกำรกำรปิดประเทศ (Lockdown) ของรัฐบำล กำรปิดสถำนประกอบกำร
               ท ำให้แรงงำนบำงส่วนถูกเลิกจ้ำง โดยเฉพำะแรงงำนในภำคบริกำร โรงแรมและภัตตำคำร กำรปิดประเทศ

               ท ำให้ธุรกิจกำรบินได้รับผลกระทบเป็นอย่ำงมำกและยังขยำยวงกว้ำงไปยังธุรกิจกำรท่องเที่ยวและธุรกิจ

               ที่เกี่ยวเนื่อง ท ำให้รัฐบำลต้องเร่งมำตรกำรกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทำผลกระทบจำกกำรแพร่ระบำด

               ของเชื้อไวรัสโควิด-19 (รัชตะ จันทร์พำณิชย์, 2564)


                       กำรแก้ปัญหำวิกฤติกำรแพร่ระบำดของโรคโควิด-19 จึงเป็นเรื่องส ำคัญและเร่งด่วนมำกในกำรจัดกำร

               มำตรกำรต่ำง ๆ กำรค้นหำวิธีกำรตรวจวินิจฉัย กำรพัฒนำวัคซีนและกำรผลิตวัสดุอุปกรณ์ทำงกำรแพทย์ต่ำง ๆ

               ให้เพียงพอต่อกำรยับยั้งหรือชะลอกำรแพร่ระบำดของโรคโควิด-19 ลดอัตรำกำรติดเชื้อและเสียชีวิต

               ของประชำกรไทยเพื่อให้ประเทศไทยสำมำรถท ำวิจัยและพัฒนำงำนวิจัยด้ำนวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี
               และนวัตกรรมจึงเกิดกำรสนับสนุนงบประมำณด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ควำมต้องกำร

               ของประเทศได้อย่ำงรวดเร็ว สำมำรถน ำส่งผลผลิต ผลลัพธ์และผลกระทบที่สำมำรถน ำไปพัฒนำเศรษฐกิจ

               และสังคมของประเทศได้


                       ส ำนักงำนคณะกรรมกำรส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จึงเล็งเห็นถึงควำมส ำคัญ

               ของกำรแก้ปัญหำวิกฤตโควิด-19 จึงได้จัดท ำแผนด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ที่เกี่ยวข้องกับ
   116   117   118   119   120   121   122   123   124   125   126