Page 123 - วารสารวันกองทัพเรือ
P. 123
คณะนักวิจัยมีความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมพัฒนากับภาคเอกชนของประเทศไทย โดยร่วมงาน
กับ บริษัทสยาม ดราย เทค จ�ากัด (SDT Composites) ในด้านการออกแบบและผลิตโครงสร้างอากาศยานไร้คนขับด้วย
วัสดุ Pre-Impregnated หรือ Dry Carbon ที่มีความทนทานแต่มีน�้าหนักเบาพิเศษ และ บริษัทพิมส์ เทคโนโลจิส จ�ากัด
(Pims Technologies) ในด้านการพัฒนาระบบโปรแกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ หรือ TBACCS (Tactical-Based
Aerial Command Control System) นับว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาร่วมกับ
่
ี
ภาคเอกชนของประเทศไทย ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนา S - Curve ท ๑๑ ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ตามนโยบายในการพัฒนาประเทศไปสู่ยุค Thailand 4.0
้
ึ
�
MARCUS มีความกว้างปีก ๓.๔ เมตร นาหนักข้นบิน ๒๔ กิโลกรัม ความเร็วเดินทางประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตรต่อช่วโมง
ั
หรือประมาณ ๕๕ น็อต ระยะเวลาบินในอากาศประมาณ ๑ ชั่วโมง สามารถบินท�าภารกิจต่อเนื่องได้เองแม้อยู่นอกระยะ
การควบคุม ซึ่งเป็นผลจากการติดตั้ง Companion Computer ที่เป็นระบบประมวลผลขนาดเล็กซึ่งติดตั้งระบบโปรแกรม
TBACCS ช่วยให้สามารถตัดสินใจและควบคุมอากาศยานไร้คนขับได้อย่างต่อเนื่อง แม้อยู่นอกระยะการควบคุมจาก Ground
Control Station หรือจนกว่าจะเข้าสู่ระยะการควบคุมของ Ground Control Station ชุดอื่นต่อไป MARCUS ได้รับการ
รับรองมาตรฐานงานวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ (กมย.ทร.) ปี ๒๕๖๔ ซึ่งในปัจจุบัน กองทัพเรือ โดย ส�านักงานวิจัย
ิ
และพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ ได้รับอนุมัติทุนวิจัยเพ่มเติม ในการวิจัยอากาศยานไร้คนขับเพ่อการลาดตระเวนทางทะเล
ื
แบบที่ ๒ หรือ MARCUS-B แล้วโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มศักยภาพของ MARCUS รุ่นแรก ให้มีระยะเวลาในการบิน
ปฏิบัติการได้ไม่ต�่ากว่า ๒ ชั่วโมง ซึ่งเมื่อปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเสนอต่อ กองทัพเรือ เพื่อน�า MARCUS ล�าใหม่เข้าสู่
ึ
สายการผลิตต่อไป นับเป็นอีกก้าวหน่งของงานวิจัย
ท่จะเข้าสู่สายการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบาย
ี
ของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔
�
และ ๒๕๖๕ ท่มุ่งเน้นให้ “ขับเคล่อนงานวิจัยของ
ี
ื
กองทัพเรือให้สามารถนาไปสู่ภาคการผลิตและ
�
็
เปนประโยชน์ต่อการใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม”
121

