Page 3 - พัฒนาการของสงครามทุ่นระเบิดแบบย่อยง่าย ตามไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์จากอดีต สู่ปัจจุบัน และมุ่งไปยังอนาคต เดือนธันวาคม ๒๕๖๓
P. 3
้
ิ
�
�
�
ในภาชนะลอยนา และทาให้เกิดการจุดระเบิดบริเวณ ของทุ่นระเบดส่งผลให้แรงลอยตัวบริเวณกลางลาของ
�
�
ึ
้
ท้องเรือใต้แนวนา ซ่งการระเบิดใต้แนวนาน้น มีความร้ายแรง เรือมีน้อยกว่าแรงลอยตัวบริเวณหัวเรือและท้ายเรือ
ั
้
�
้
ื
ึ
ี
เป็นอย่างมากหากเกิดข้นในระยะท่ใกล้มากเพียงพอ และเน่องจากปรากฏการณ์ของการระเบิดใต้นา
ในรัศมีการระเบิดของคล่นกระแทก (Shock wave) (Underwater Explosion Phenomena) ซ่งผลของ
ื
ึ
โดยเฉพาะในจังหวะท่เรือแล่นอยู่เหนือทุ่นระเบิด ปรากฏการณ์การระเบิดใต้นาเกิด ๒ ปรากฏการณ์ท ่ ี
ี
�
้
พอด (โดยเฉพาะกับทุ่นระเบิดแบบอิทธิพลวางกับพ้น แตกต่างกันคือ ปรากฏการณ์การเกิดคล่น Shock wave
ื
ี
ื
ท้องทะเลซ่งจะบรรจุดินระเบิดจานวนมากกว่าทุ่นระเบิด และปรากฏการณ์การขยายและหดตัวของฟองอากาศ
ึ
�
่
ี
ี
�
ี
ทอดประจาท ท่ไม่สามารถบรรจุดินระเบิดเต็มปริมาตรได้ ท่เกิดจากการระเบิด (pulsation of the bubble)
เน่องจากต้องการให้ทุ่นระเบิดมีกาลังลอย) ก็จะทาให้ แล้วทาให้เกิดการเปล่ยนแปลงของแรงลอยตัวอย่าง
�
ี
ื
�
�
ั
ี
ี
เรือสามารถท่จะหักกลางได้ในการระเบิดเพียงคร้งเดียว กระทันหันจนตัวเรือท่เป็นเหล็กกล้าไม่สามารถปรับ
ั
ี
ื
ี
่
ั
ท้งน้เน่องจากความต่างของแรงลอยตัว (Buoyancy) เปลยนไปตามการเปลยนแปลงของแรงลอยตวได้
ี
่
ของมวลนาท่เปล่ยนแปลงไปในจังหวะท่เกิดการระเบิด จนส่งผลให้เกิดการหักของตัวเรือ
ี
�
๒
ี
้
ี
�
้
ี
แสดงการเปล่ยนแปลงของแรงลอยตัวของเรือผิวนาอย่างกะทันหัน จากปรากฏการณ์การระเบิดใต้นา (Underwater Explosion Phenomenon)
�
้
๒ Headquarters US Army Material Command, AMCP 706-179 – ENGINEERING DESIGN HANDBOOK – Explosive Series, p.3-16
นาวิกศาสตร์ 57
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

