Page 14 - นาวิกศาสตร์ พฤษภาคม ๒๕๖๔
P. 14
เม่อกรมหลวงชุมพรฯ ส้นพระชนม์แล้ว ได้อัญเชิญพระศพมาพักไว้ท่ใต้ตนหกวาง หาดทรายรี เพ่อรอเรือรบ
ี
ิ
ื
ู
ื
้
๓
หลวงพระร่วง มารับพระศพกลับกรุงเทพฯ รออยู่จนบ่ายเรือรบหลวงพระร่วงก็ยังมาไม่ถึง จึงอัญเชิญพระศพ
๓
ึ
ั
ื
ี
ี
�
ข้นเรือหลวงเจนทะเล ท่ประจาอยู่ท่น่นแล้ว กรมหลวงชุมพรฯ อยู่ในเคร่องแบบนายพลเรือเอกมีธงชาติคลุมแค่
่
ั
ั
ื
้
ั
ู
ี
พระทรวง ดคลายบรรทมหลบ เหมอนกบยงมพระชนมชพอย เรอหลวงเจนทะเลไดพบกบเรอรบหลวงพระรวงทบรเวณ
้
ื
ั
่
ี
ื
ู
่
ิ
ี
ปากแม่น�้าเจ้าพระยาตอนเช้ามืด จึงถ่ายพระศพขึ้นสู่เรือรบหลวงพระร่วง เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เรือรบหลวงพระร่วง
เปิดหวูดไซเรนดังโหยหวนไปตามลานาเจ้าพระยา หม่อมเจ้าหญิงจารุพัตราฯ และนายเรือเอก เจริญ ทุมมานนนท์
�
้
�
ื
่
ุ
นายธงคนสดท้ายของกรมหลวงชมพรฯ นงเฝ้าพระศพมาตลอดทาง เรอรบหลวงพระร่วงได้จอดอย่ทท่าหน้า
ู
ั
่
ี
ุ
ิ
�
ึ
วัดราชาธิวาส อัญเชิญพระศพข้นรถพยาบาลของสภากาชาดสยามไปประดิษฐาน ณ ตาหนักใหญ่ วังนางเล้ง
ของพระองค์ท่าน
่
ึ
ี
่
ิ
ั
ี
ั
ิ
้
ุ
กรมหลวงชมพรฯ สนพระชนม์ไปแล้ว แต่ต้นหูกวางหาดทรายร ซงเป็นทประทบพกผ่อนพระอรยาบถ
ิ
ของพระองค์ท่านเป็นประจ�า ก็ยังคงร่มรื่นอยู่เช่นเดิม เหมือนกับพระองค์ที่ยังทรงมีพระชนมชีพอยู่
ประมาณปี พ.ศ.๒๔๗๒ ได้มีการสร้างศาลกรมหลวงชุมพรฯ ข้นเป็นศาลแรก ณ ต้นหูกวางหาดทรายร ี
ึ
ึ
โดยนายเทียม ทิพย์พนม และต่อมา ในปี พ.ศ.๒๔๘๙ นายฮวด สุคนธาภิรมย์ ได้สร้างศาลข้นใหม่คู่กับศาลเดิม
ซึ่งทรุดโทรม ณ ที่เดิม ใต้ต้นหูกวางหาดทรายรี
ในปี พ.ศ.๒๕๐๒ พันตรี แสง จุละจาริตต์ กับคนรถไฟ จังหวัดชุมพร ได้สร้างศาลกรมหลวงชุมพรฯ ขึ้น
ณ ที่เดิมใต้ต้นหูกวางหาดทรายรี เป็นศาลไม้จัตุรมุขหลังแรก
ในปี พ.ศ.๒๕๓๒ คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ได้สร้างศาลกรมหลวงชุมพรฯ เป็นศาลคอนกรีต แทน
ศาลเดิมที่ พันตรี แสงฯ สร้างไว้ ณ ที่เดิม เนื่องจากเห็นว่าศาลเดิมที่เป็นศาลไม้นั้น มีสภาพทรุดโทรมไปตามอายุขัย
และคงเป็นศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่มั่นคง แข็งแรง มาจนปัจจุบัน
ี
ิ
ื
ในปี พ.ศ.๒๕๔๐ ต้นหูกวางประวัติศาสตร์ท่หาดทรายรี ก่งก้านบางส่วนได้ย่นเลยไปพาดอยู่เหนือ
ั
้
้
ั
ิ
่
ิ
ี
ึ
�
ั
หลงคาศาลฯ อาจทาความเสยหายแก่ศาลฯ ได้ จงจาเป็นต้องตดแต่งต้นหกวาง บางกงออก การตกแต่งกงครงนน
ั
่
ู
�
ี
ี
�
ทาให้ต้นหูกวางเห่ยวและใบร่วง ประกอบกับเหตุการณ์ไฟไหม้ท่โคนต้นหูกวางจากการมาจุดธูป เทียน สักการะ
โดยเชื้อเพลิงจากผ้าสีและศาลไม้โดยรอบ รวมทั้งใบแห้งของต้นหูกวาง ท�าให้ต้นหูกวางตายลง คณะกรรมการมูลนิธิฯ
ในขณะนั้น จึงตัดสินใจตัดให้เหลือแต่ตอ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๐ และได้อนุรักษ์ตอต้นหูกวางที่เหลืออยู่
ี
ี
ให้คงสภาพเดิมมาโดยตลอด กับท้งสร้างแผ่นป้ายขนาดใหญ่ แสดงความเป็นมาของต้นหูกวางต้นน้เอาไว้ ผู้คนท่มา
ั
กราบไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรฯ ก็เลยพากันมากราบไหว้ต้นหูกวางด้วย รวมทั้งมาถ่ายรูปกับต้นหูกวางและแผ่นป้าย
ขนาดใหญ่เป็นที่ระลึกด้วย นอกจากนี้ยังเอาผ้าแพรหลากสีมาผูกพันต้นหูกวาง และสร้างศาลเล็กศาลน้อยจ�านวนมาก
ไว้บริเวณรอบ ๆ ต้นหูกวางอย่างไม่เป็นระเบียบ ทั้ง ๆ ที่มีศาลกรมหลวงชุมพรฯ หลังใหญ่เป็นหลักอยู่แล้ว
12
นาวิกศาสตร์
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔

