Page 10 - นาวิกศาสตร์ เดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔
P. 10

เพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียง  โดยจะทำการฝึกซ้อมย่อย       โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้  นาวาเอก
            ๘  ครั้ง  ในห้วงปลายเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม  และกำหนด   ทองย้อย  แสงสินชัย ข้าราชการบำนาญ สังกัดกองทัพเรือ
            ซ้อมใหญ่ ๒ ครั้ง ในวันที่ ๑๓ , ๑๘  ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔      ได้ประพันธ์กาพย์เห่เรือขึ้นมาใหม่ จำนวน ๓ บท ใช้เวลา
            ก่อนที่จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย   ในการขับเห่เป็นเวลา ๔๕ นาที ซึ่งสอดคล้องกับห้วงเวลา
            ผ้าพระกฐิน  โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค  ในวันที่   ในการปฏิบัติของการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
            ๒๒  ตุลาคม  พ.ศ.๒๕๕๔  ในส่วนของบทเห่เรือที่จะใช้ใน   โดยมี นาวาตรี ณัฐวัฏ    อร่ามเกลื้อ  หัวหน้าแผนกเรือราชพิธี
            พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน   กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ เป็นพนักงานเห่

                              กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
                  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔

                                                     บทที่ ๑
                                               สรรเสริญพระบารมี

                                        ถวายภิวาทไตรรัตน์ถ้วน   ไตรทวาร
                                      ไตรภพโพ้นจักรพาล        ผ่องแผ้ว
                                      ไตรทิพย์เทพทุกสถาน      เชิญถั่ง พรเทอญ
                                      ถวายพระเกียรติถกลแก้ว   ก่องฟ้านิรันดร์สมัย
                                  (๑)  เห่เอย เห่เรือทิพย์      ล่องลอยลิบเลิศล้ำสวรรค์
                                  ร้อยคำล้ำค่าครัน             แด่จอมธรรม์ผู้จอมไทย
                                  (๒)  พระเอยพระผ่านเผ้า       พระอยู่เกล้ามายาวไกล
                                  พระแผ่พระบารมีไป             เปี่ยมโลกหล้าฟ้าดินสราญ
                                  (๓)  พระชนม์พิพัฒน์ชัย       เจ็ดรอบสมัยมงคลกาล
                                  หัวใจไทยชื่นบาน              ดั่งทิพย์ธารหล่อเลี้ยงไทย
                                  (๔)  ครองราชย์ก็ร่มราษฎร์     ชุ่มชื่นชาติเฉกฉัตรชัย
                                  ร่มธรรมน้ำพระทัย             ปัดป้องภัยในธรณี
                                  (๕)  สองพระบาทประพาสไทย      ประทับไว้ทุกถิ่นที่
                                  สองพระหัตถ์กระหวัดวี         ทรงโอบทั่วทุกทวยชน
                                  (๖)  สองนัยน์สายพระเนตร      ทรงเห็นเหตุทุกแห่งหน
                                  สองพระกรรณสดับกล             เพื่อแก้ทุกข์ทวยประชา
                                  (๗)  สองบ่าที่ทรงแบก         แต่วันแรกครองพารา
                                  เจ็ดรอบพระชันษา              ทั้งสองบ่ามิเคยเบา
                                  (๘)  เหน็ดเหนื่อยนั้นหนักนัก    หนุนเนื่องหนักเนิ่นนานเนา
                                  ภัยพาลผ่านผ่อนเพลา           ก้มเกศเกล้ากราบใกล้ไกล
                                  (๙)  ราษฎร์รักฤๅโรยร้าง      รักกระจ่างอยู่กลางใจ
                                  ครองธรรมจึงครองไทย           จึงครองใจนานจำเนียร
                                  (๑๐) ร้อยทุกข์ที่รุมโถม      ไม่อาจโหมให้หันเหียน
                                  ร้อยวันที่ผันเวียน           ไม่อาจเปลี่ยนให้รักแปลง
                                  (๑๑) แปดสิบสี่พระชันษา       พระอังสาอาจล้าแรง
                                  พระวรกายที่เคยแกร่ง          อาจผุกร่อนไปตามกาล
                                  (๑๒) น้ำพระทัยยังเป็นทิพย์     เลิศล้ำลิบรสหอมหวาน
                                  ไหลหลั่งดั่งสายธาร           ทั่วทวยไทยได้อาบกิน


                                                             นาวิกศาสตร์  ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔  ๐7
   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15