Page 90 - นาวิกศาสตร์ มีนาคม ๒๕๖๒
P. 90
SAIL UNDER FALSE COLOURS
เดินเรือโดยใช้ธงเท็จ
Colours ในที่นี้ หมายถึงธงชาติ (flag) เรือฟริเกตสเปน (xebec) El Gamo ซึ่งมีปืน ๓๒ กระบอก
มีลูกเรือจำนวน ๓๑๙ คน ตอนแรกเขาชักธงชาติเดนมาร์ก
เป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวเรือที่เรือทุกลำในทะเล และให้นายทหารแต่งเครื่องแบบนายทหารเรือเดนมาร์ก
ต้องชักธงชาติเพื่อแสดงให้เรือลำอื่นได้รับรู้ แต่การชักธงชาติ เขานำเรือเข้าไปใกล้เรือ El Gamo แต่ได้แล่นเลยออกไป
ก็เป็นเล่ห์เหลี่ยมอย่างหนึ่งแบบคลาสสิคของชาวเรือ และหวนกลับมาอีกราว ๓ วันต่อมา เรือสเปนไม่ได้สงสัย
เช่นกัน การชักธงเท็จ เป็นการหลอกให้เรือที่เป็นศัตรูติดกับ เจตนาที่แท้จริงของ Cochran ซึ่งนำเรือเข้าไปประชิด
หรือ เข้าไปใกล้เรือลำนั้นโดยไม่มีความเคลือบแคลงใจ แล้วเปิดการยิงโดยข้าศึกไม่ทันตั้งตัว เขานำเรือเข้าเทียบ
วิธีการนี้เป็นที่นิยมของเรือโจรสลัด เรือ privateer แล้วยึดเรือได้โดยไม่ยากนัก กล่าวกันว่าปฏิบัติการครั้งนั้น
(เรือเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้จับกุมเรือข้าศึกได้) เป็นการกระทำที่กล้าหาญ (derring-do) ที่สุดครั้งหนึ่ง
และเป็นที่ยอมรับกันว่าเรือสามารถชักธงเท็จได้ แต่ต้อง ซึ่งมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางเรือ และนั่นคือ
ชักลง และแทนที่ด้วยธงชาติจริงของเรือนั้นก่อนทำการยิง ที่มาของ Sail Under False Colours
หรือโจมตี
สำนวนนี้เมื่อนำมาใช้บนบกจึงมีความหมายว่า
ปลอมตัว หรือแสร้งทำเป็นการกระทำเพื่อลวงบุคคลอื่น
นายทหารเรืออังกฤษ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการใช้ หรือซ่อนเจตนาที่แท้จริงของตนไว้ เช่นประโยคที่ว่า
ธงเท็จ คือ Lord Thomas Cochran เขาเป็นกัปตันเรือ “You are not whom you seem to be, you are sailing
ที่กล้าหาญที่สุดคนหนึ่งในยุคสงคราม นโปเลียน under false colours.” สวนสำนวนที่สืบเนื่องกับข้างต้น
เป็นผู้บังคับการเรือ HMS. Speedy ซึ่งเป็นเรือ brig คือ True Colour ตามที่ได้กล่าวนั้น หมายถึงเปิดเผยตัวตน
(เรือใบ สองเสาขึงตามขวาง) มีปืน ๑๔ กระบอก ลูกเรือ ที่แท้จริง เผยสิ่งที่เป็นจริงออกมา หรือเปิดเผยธาตุแท้
๕๔ คน ในเดือนพฤษภาคม คริสตศักราช ๑๘๐๑ เขาเจอ ออกมา

