Page 104 - sc 21001
P. 104
96
ู
็
การระเหยเปนไอ (Evaporation) เปนการเปลี ยนแปลงสถานะของนํ าบนพื นผิวไปสบรรยากาศ
่
็
ึ
ทั งการระเหยเปนไอ (Evaporation) โดยตรง และจากการคายนํ าของพืช (Transpiration) ซงเรยกว่า
็
ี
“Evapotranspiration”
่
็
ู
หยาดนํ าฟา (Precipitation) เปนการตกลงมาของนํ าในบรรยากาศสพื นผิวโลก โดยละอองนํ า
้
ิ
่
ี
ุ
ู
ในบรรยากาศจะรวมตัวกันเปนก้อนเมฆ และในทสดกลั นตัวเปนฝนตกลงสผิวโลก รวมถึง หมะ และ
็
็
ลูกเหบ
็
ู
่
ิ
ึ
การซม (Infiltration) จากนํ าบนพื นผิวลงสดนเปนนํ าใต้ดน อัตราการซมจะข นอยู่กับประเภท
็
ึ
ิ
ึ
ั
ของดน หน และ ปจจัยประกอบอื น ๆ นํ าใต้ดนนั นจะเคลื อนตัวช้า และอาจไหลกลับข นบนผิวดน หรอ
ิ
ื
ิ
ึ
ิ
ิ
ี
ี
็
ิ
อาจถูกกักอยูภายใต้ชั นหนเปนเวลาหลายพันป โดยปกตแล้วนํ าใต้ดนจะกลับเปนนํ าทผิวดนบนพื นทท ี
ี
็
ิ
ิ
่
ิ
่
่
อยูระดับตํากว่า ยกเว้นในกรณของบอนํ าบาดาล
ี
นํ าทา (Runoff) หรอ นํ าไหลผานเปนการไหลของนํ าบนผิวดินไปสูมหาสมุทร นํ าไหลลงส ู ่
ื
่
่
็
่
ึ
่
แม่นํ าและไหลไปสมหาสมุทร ซงอาจจะถูกกักชั วคราวตาม บง หรอ ทะเลสาบ กอนไหลลงส ่ ู
่
ื
ู
ึ
มหาสมุทร นํ าบางสวนกลับกลายเปนไอกอนจะไหลกลับลงสมหาสมุทร
ู
็
่
่
่
ั
้
ปจจัยที ทําใหเกิดการหมุนเวียนของนํ า
็
ิ
้
ิ
1. ความรอนจากดวงอาทตย์ ทําให้โมเลกุลของนํ าแตกตัวและเกดการระเหยของนํ ากลายเปน
ึ
ไอข นสบรรยากาศ
่
ู
2. กระแสลม ทําให้นํ าระเหยกลายเปนไอเรวขึ น
็
็
ี
ู
็
ื
ั
3. มนษย์ และ สัตว์ ขับถ่ายของเสยออกมาในรปของเหงอ ปสสาวะ และลมหายใจ กลายเปน
ุ
่
ู
ไอนํ าสชั นบรรยากาศ

