Page 95 - sc 21001
P. 95
87
การเปลี ยนแปลงแทนที ทางนิเวศวิทยา
ี
พื นทเกษตรกรรมสวนใหญในอดตเคยเปนปามากอน หากปล่อยให้รกรางนาน ๆ ก็กลับ
่
่
่
ี
็
่
้
ึ
ั
่
็
ื
ี
ู
กลายเปนปาอีกคร ง ด้วยการทหญ้าหรอวัชพืชข นมาปกคลุมดนสงข นเรอย ๆ จากนั นพุ่มไม้และไม้อ่อน
ื
ึ
ิ
ุ่
ิ
่
่
่
่
จะงอกขึ นมาในทงหญ้า ตอมาเมื อไม้ใหญแตกก งก้านสาขา รมเงาของมันจะทําให้หญ้าคอย ๆ ตายใน
ี
่
็
่
ี
ี
ี
ิ
ิ
ทสด ไม้ใหญททําให้พื นทกลายเปนปาเรยกว่า “การเปลี ยนแปลงแทนททางนเวศวทยา”
ุ
ี
ุ
ิ
ุ
ิ
ี
ิ
่
ในธรรมชาตทั วไป การเปลี ยนแปลงแทนทเกดข ึนได้ทกหนทกแหง ทั งในดนในนํ า
ิ
็
่
่
ี
ตัวอย่างเชน เราอาจเคยเหนสระนํ าทมีพืชหลายชนดขึ นอยูเต็มสระจนรากใต้ผิวนํ ารกแนนไปหมด ราก
่
่
ิ
ิ
ึ
ี
็
่
ื
ื
ี
เหล่าน จะยึดและสะสมดนหรอซากใบเนาไว้จนกระทั งสระนํ าคอยๆ ต นเขนข นเรอย ๆ กลายเปนทลุ่ม
ื
่
ี
ี
่
ึ
ื
ี
ช นแฉะ และพืชนํ าทเคยมีก็ค่อย ๆ หายไปขณะทต้นไม้เล็กๆ งอกข นแทนทและคอย ๆ ทําให้ทลุ่มแหง
ี
นั นกลายเปนดงไม้รมช นในทสด
ุ
ี
ื
่
็
ิ
ั
ชนของสงมีชวิต
ี
ื
่
ิ
ื
ี
ลักษณะเดนทสดของดาวเคราะห์ทชอว่า “โลก” คอ การมีส งมีชวิตอาศัยอยู่บนพื นผิวบางๆ
ี
ุ
ี
ี
ทปกคลุมโลก
ิ
็
ชวิตได้เร มถือกําเนดขึ นบนโลกตั งแตเมื อประมาณ , ล้านปกอน ซงเปนระยะเวลา
่
ิ
่
ึ
ี
ี
ทยาวนานเพียงพอสําหรบวิวัฒนาการจนเกิดเปนส งมีชวิตหลากหลายสายพันธ์ข นมา
ี
ั
ี
็
ิ
ึ
ุ
โลกเรามีสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศหลากหลายรปแบบเรยกว่า “ความหลากหลายทาง
ู
ี
ชวภาพ” แตส งมีชวิตบนโลกก็ยังต้องข นอยูกับแหล่งพลังงานจากภายนอกโลก คอพลังงานจาก
ื
่
ิ
ี
ี
ึ
่
แสงอาทตย์ ซงทําให้โลกเรามีอุณหภูมิทเหมาะสมตอการสรางอินทรยวัตถุข นจากกระบวนการ
ิ
ี
ี
ึ
้
่
ึ
สังเคราะห์แสง
ี
ี
์
การศึกษาส งมีชวิตทําได้ วิธ คอการศึกษาตามสปชส์ เหมือนทนักพฤกษศาสตรศึกษา
ิ
ื
ี
ี
ี
พรรณไม้ หรอ นักสัตววิทยาศึกษาสัตว์ตาง ๆ และการศึกษาโดยองค์รวม โดยเลือกเขตใดเขตหนงมา
่
ื
ึ
ี
วิเคราะห์ส งมีชวิตทกชวิตทอาศัยอยูในเขตนั น ๆ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างส งมีชวิตแตละชนดท ี
่
ิ
ิ
ี
ี
ุ
่
ี
ิ
ี
ิ
ิ
ี
็
เรยกว่า “นเวศวิทยา” คือการศึกษาส งมีชวิตรวมกันเปนระบบนเวศ
ิ
่

