Page 14 - 25. art 11003
P. 14
4
ี่
นักออกแบบนําเอาความรูสึกที่มีตอเสนที่แตกตางกันมาใชในงานศิลปะประยุกต โดยใชเสนมาเปลยน
รูปรางของตัวอักษร เพื่อใหเกิดความรูสึกเคลื่อนไหวและทําใหสื่อความหมายไดดียิ่งขึ้น
สี
ทฤษฎีส หมายถึง หลักวิชาในเรื่องของสีที่สามารถมองเห็นไดดวยตา และเมื่อสามรอยกวาปที่ผานมา
ี
ไอแซก นิวตัน ไดคนพบวาแสงสีขาวจาก ดวงอาทิตยเมื่อหักเห ผานแทงแกวสามเหลี่ยม (prism) แสงสีขาวจะ
กระจายออกเปนสีรุง เรียกวา สเปคตรัม ม 7 สี ไดแก มวง คราม น้ําเงน เขียว เหลือง สม แดง และไดกําหนดให
ิ
ี
ี่
เปนทฤษฎีสีของแสง ความจริงสีรุงเปนปรากฏการณ ตามธรรมชาติทเกิดขึ้นและพบเห็นกันบอย ๆ โดยเกิดจาก
การหักเหของ แสงอาทิตยหรือแสงสวาง เมื่อผานละอองน้ําในอากาศและกระทบตอสายตาใหเห็นเปนส มีผล
ี
ทางดานจิตวิทยา ทางดานอารมณ และความรูสก การที่ไดเห็นสีจากสายตา สายตาจะสงความรูสึกไปยังสมองทํา
ึ
ึ
ใหเกิดความรูสกตางๆ ตามอิทธิพลของสี เชน สดชื่น เรารอน เยือกเย็น หรือตื่นเตน มนุษยเราเกี่ยวของ
กับสีตางๆ อยูตลอดเวลา เพราะทกสิ่งที่อยูรอบตัวนั้น ลวนแตมีสีสันแตกตางกันมากมาย
ุ
ี
ี
นักวิชาการสาขาตางๆ ไดศกษาคนควาเรื่องส จนเกิดเปนทฤษฎส ตามหลกการของนักวิชาการสาขา
ึ
ั
ี
ตาง ๆ เชน
แมสีของนักฟสิกส หรือ(แมสีของแสง) (Spectrum Primaries)
ี
เปนสีที่เกิดจากการผสมกันของคลื่นแสง ม 3 สี คือ
ี
แมสของนักเคม (Pigmentary Primaries) คือสที่ใชในวงการอุตสาหกรรมและวงการศิลปะ หรือ
ี
ี
เรียกอกอยางหนึ่งวา สวัตถธาตุ ทเรากําลงศกษาอยูในขณะนี้ โดยใชในการเขียนภาพเกี่ยวกับพาณิชยศลป
ิ
ี
ั
ี่
ึ
ี
ุ
ภาพโฆษณา ภาพประกอบเรื่องและภาพเขียน ของศิลปนตาง ๆ ประกอบดวย

