Page 46 - 25. art 11003
P. 46

36





               เรื่องที่ 1   ดนตรีสากล



                                                                                       ั
                                                                                                    ้ํ
                      ดนตรีเกิดขึ้นมาในโลกพรอมๆกับมนุษยเรานั่นเอง  ในยุคแรกๆมนุษยอาศยอยูในปา ในถา   และใน
                                                                                              
                                                                                                         
               โพรงไม   แตมนุษยก็รูจักการรองรําทําเพลงตามธรรมชาติ   เชนรูจักปรบมือ  เคาะหิน  เคาะไม  เปาปาก  เปาเขา
                                                                                                 
               และการเปลงเสียงรอง เชน   การรองรําทําเพลงเพอออนวอนพระเจาใหชวยเพอพนภัย   บนดาลความสขความ
                                                                           
                                                         ื่
                                                                                    
                                                                                 ื่
                                                                                                       ุ
                                                                                           ั
                                                                             
                                                           
               อุดมสมบูรณตางๆใหแกตน   หรือเปนการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจาที่บันดาลใหตนมีความสุขความสบาย
                                           ี
                                                                    
                                                                                            
                                                                                              ี
                      ในระยะแรก  ดนตรีมเพยงเสยงเดียวและแนวเดียวเทานั้นเรียกวา  Melody    ไมมการประสานเสยง
                                         ี
                                                                                                           ี
                                                ี
               จนถึงศตวรรษที่ 12 มนุษยเราเริ่มรูจักการใชเสียงตางๆมาประสานกันอยางงายๆ เกิดเปนดนตรีหลายเสียงขึ้นมา

               ยุคตางๆของดนตร   ี

               นักปราชญทางดนตรีไดแบงดนตรีออกเปนยุคตางๆดังนี้
                                                                                                 ี
                                                                                                        ั
                                                                
                      1.  Polyphonic  Perio( ค.ศ. 1200-1650 )  ยุคนี้เปนยุคแรก  วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ  จนมแบบฉบบและ
               หลักวิชาการดนตรีขึ้น  วงดนตรีอาชีพตามโบสถ    ตามบานเจานาย  และมีโรงเรียนสอนดนตรี
                                                                                 
                                                                                         ี
                                                                              
                      2.  Baroque  Period  ( ค.ศ. 1650-1750 )  ยุคนี้วิชาดนตรีไดเปนปกแผน  มแบบแผนการเจริญดาน
                                                                                     
                                                                                                        
               นาฏดุริยางค    มากขึ้น  มีโรงเรียนสอนเกี่ยวกับอุปรากร  ( โอเปรา)  เกิดขึ้น  มนักดนตรีเอกของโลก 2 ทานคือ
                                                                                 ี
               J.S. Bach   และ    G.H.   Handen
                                                                
                                                                                  ู
                      3.  Classical  Period ( ค.ศ. 1750-1820 )  ยุคนี้เปนยุคทดนตรีเริ่มเขาสยุคใหม  มความรุงเรืองมากขึ้น
                                                                                           ี
                                                                                         
                                                                     ี่
               มีนักดนตรีเอก 3 ทานคือ  Haydn Gluck   และMozart
                      4.  Romantic Period  ( ค.ศ. 1820-1900 )  ยุคนี้มีการใชเสียงดนตรีที่เนนถงอารมณอยางเดนชดเปนยุค
                                                                                     ึ
                                                                                                         
                                                                                                      ั
               ที่ดนตรีเจริญถึงขีดสุดเรียกวายุคทองของดนตรี นักดนตรีเชน Beetoven และคนอื่นอีกมากมาย
                                                                             ี่
                      5.  Modern  Period  ( ค.ศ. 1900-ปจจุบน ) เปนยุคทดนตรีเปลยนแปลงไปมาก  ดนตรีประเภทแจส
                                                         ั
                                                     
                                                                    ี่
                                                               
               (Jazz) กลับมามีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงปจจุบันขนบธรรมเนียมประเพณีของแตละชาติ  ศาสนา  โดยเฉพาะ
                                               ั
                                         ี
                                                                                    ี่
               ทางดนตรีตะวันตก  นับวามความสมพนธใกลชดกับศาสนามาก  บทเพลงทเกี่ยวกับศาสนาหรือเรียกวา
                                                         
                                                           ิ
                                                     
                                                   ั
               เพลงวัดนั้น  ไดแตงขึ้นอยางถูกหลักเกณฑ   ตามหลักวิชาการดนตรี  ผูแตงเพลงวัดตองมีความรูความสามารถสูง
               เพราะตองแตงขึ้นใหสามารถโนมนาวจิตใจผูฟงใหนิยมเลื่อมใสในศาสนามากขึ้น  ดังนั้นบทเพลงสวดในศาสนา
               คริสตจึงมีเสียงดนตรีประโคมประกอบการสวดมนต   เมื่อมีบทเพลงเกี่ยวกับศาสนามากขึ้น  เพื่อเปนการปองกัน
                                                                                                
                                                              ื่
                                                                                    ั
               การลืมจึงไดมีผูประดิษฐสัญลักษณตางๆแทนทํานอง  เมอประมาณ ค.ศ.  1000  สญลกษณดังกลาวคือ  ตัวโนต
                                                                                       ั
                                           
                                                                    
                                                             ื้
                                        ี่
                                                ั
                                                                                 ี
                                                                                        
                                                                       ี
               ( Note )  นั่นเอง  โนตเพลงทใชในหลกวิชาดนตรีเบองตนเปนเสยงโด  เร  ม นั้น  เปนคําสวดในภาษาละติน
                                                                                                       
               จึงกลาวไดวาวิชาดนตรีมีจุดกําเนิดมาจากวัดหรือศาสนา  ซึ่งในยุโรปนั้นถือวาเพลงเกี่ยวกับศาสนานั้นเปนเพลง
                                                                                                          ี่
               ชั้นสูงสุดวงดนตรีที่เกิดขึ้นในศตวรรษตนๆจนถงปจจุบน  จะมลกษณะแตกตางกันออกไป  เครื่องดนตรีทใช  
                                                                     ี
                                                                       ั
                                                               ั
                                                        ึ
                                                           
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51