Page 6 - PRD 248
P. 6
ในการท�าฝายมีชีวิตของเมืองตากนั้น เขาก�าหนดเงื่อนไข
กันเองว่าจะต้องไม่ใช้งบประมาณ แต่จะใช้พลังศรัทธาของชาวบ้าน
มาช่วยกันลงแรง วัสดุที่ใช้ก็หาได้ในท้องถิ่น หลัก ๆ ก็มีไม้ไผ่ แล้วก็
ดินกับทราย เมื่อสร้างเสร็จเขาก็ปลูกต้นไทรเอาไว้ที่ตัวฝาย ปลูกโดย
มีเป้าหมายว่า เมื่อต้นไทรโตใหญ่ก็อาศัยรากไทรช่วยเป็นตัวยึดเกาะดิน
ทดแทนไม้
เริ่มสร้างเป็นครั้งแรกที่บ้านห้วยเตย ต.แม่ปะ เมื่อ 19 ม.ค.
ปี 59 อีกไม่กี่วันก็จะครบ 2 ปีแล้ว สร้างกันมาก่อนที่รัฐบาลจะ
เดินหน้าโครงการจิตอาสาประชารัฐ เมื่อมีโครงการนี้ขึ้นมา เขาเลย
เอามาต่อยอดเพราะเป็นกิจกรรมหลักการเดียวกัน เกิดเพราะจิตอาสา
ในพื้นที่ เนื่องจากเขามีข้อก�าหนดกันไว้ว่า การสร้างฝายมีชีวิตนั้น
ผู้ใหญ่สุวรรณ กรณ์สนธิ์ จะไม่ใช้เงินงบประมาณ แต่ใช้พลังศรัทธาของชาวบ้าน หาวัสดุในพื้นที่
มาลงแรงช่วยกันสร้าง ข้าวปลาอาหารก็จัดหากันมาเอง
ท่านพระครูเวฬุวันจันทรัศมีเล่าว่า ก่อนนี้ก็ไม่รับบริจาค
เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เงินทองเพื่อกันข้อครหา แต่เนื่องจากข้าวปลาอาหารที่จัดเลี้ยงคน
ส�านักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จ�านวนมากต้องซื้อหา วัสดุอุปกรณ์หลายอย่างก็ต้องซื้อ ครูฝาย
(สช.) ซึ่งก�ากับโครงการจิตอาสาประชารัฐ ที่ช�านาญการของพื้นที่ก็ถูกเชิญไปสาธิต ทั้งในจังหวัดตากและ
ได้น�าผู้สื่อข่าวกลุ่มหนึ่งไปดูการท�ากิจกรรม จังหวัดอื่น หลัง ๆ ก็เลยต้องรับเงินบริจาคมาเป็นค่าใช้จ่าย
ฝายมีชีวิตที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก วัสดุสร้างฝายนั้นหลัก ๆ ก็มีไม้ไผ่ ดินกับทราย สร้างเสร็จ
ส�าหรับฝายมีชีวิตนี้ ผู้ใหญ่สุวรรณ เขาก็ปลูกต้นไทรเอาไว้ที่ตัวฝายเพื่อให้รากไทรช่วยเป็นตัวยึดเกาะ
กรณ์สนธิ์เล่าว่า ได้เริ่มท�ากันในพื้นที่ อ.แม่สอด ต่อไปในอนาคตเมื่อไม้ไผ่ผุพัง รากไทรนี่แหละจะท�าหน้าที่กั้นน�้าแทน
เมื่อ 19 ม.ค. 59 เหตุที่เกิดฝายมีชีวิตในพื้นที่ พระครูเวฬุวันจันทรัศมี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน เจ้าคณะต�าบล
เพราะกลุ่มจิตอาสาแม่สอด อยากจะท�าฝายม้ง แม่ปะ จิตอาสาฝ่ายสงฆ์หนึ่งในแกนน�าของการสร้างฝายมีชีวิตเล่าว่า
แบบประหยัด ค้นข้อมูลดูก็เห็นผลงานการ เดิมทีก็ขอรับบริจาคแต่สิ่งของอย่างถุงใส่ทรายกับแรงศรัทธาของ
ดัดแปลงของชาวบ้านที่นครศรีธรรมราช ชาวบ้านมาช่วยกันสร้าง แต่ระยะหลัง ๆ ใครจะบริจาคเงินให้ก็ต้อง
ผู้ใหญ่เล่าว่า อุตส่าห์ลงทุนพาคณะไปดูงานกัน รับไว้ เพราะผลงานการสร้างฝายของจิตอาสาแม่สอดเป็นที่ยอมรับ
ไกลถึงปักษ์ใต้ แต่พอได้เห็นของจริงก็พบกับ ไปทั่วประเทศ หลายพื้นที่ขอแรงให้ไปช่วยแนะน�าก็ส่งทีมงานไป
ฝายที่มีต้นไม้ขึ้นคลุมแบบที่พวกตนเคยเห็น ซึ่งจ�าเป็นที่จะต้องมีค่าน�้ามันรถ ค่าอาหารให้คณะจิตอาสา
มาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเด็ก
“มันก็น่าข�าดีที่เราลืมนึกถึงภูมิปัญญา
คนรุ่นเก่าที่เป็นบรรพบุรุษของเรา ในอดีต
เมืองเหนือเขาท�าฝายกันด้วยไม้ไผ่ถมดินจน
ต้นไม้ขึ้นคลุมเยอะแยะ แต่เรากลับไปดูงาน
ถึงนครฯ แต่ก็ดีนะท�าให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น
เพราะมีพื้นฐานที่ตกทอดมาจากคนรุ่นเก่า”
ผู้ใหญ่เล่าให้ฟังอย่างข�า ๆ
นักเรียนขนดินถมคันฝำย พระครูเวฬุวันจันทรัศมี
4 | วารสารกรมประชาสัมพันธ์

