Page 392 - PowerPoint Presentation
P. 392

6.  แนวทางการแก้ปัญหา
                          1.หากิจกรรมเพื่อให้เกิดแรงจูงใจที่จะท ากิจกรรมและการเรียนที่ดีขึ้น

                          2.น าเด็กไปเรียนซ่อมเสริมเข้าโครงการสอนซ่อมเสริมเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
                   7.  การติดตามผล
                          เริ่มท าการศึกษาตั้งแต่วันที่  15  เดือน  พฤษภาคม  พ.ศ.  2561 ถึงวันที่  20 เดือน กันยายน พ.ศ.
                   2561 และได้ท าการติดตามผลเป็นช่วงๆ   ดังนี้

                          การติดตามผลในช่วงที่  1  จะมีพฤติกรรมต่อต้านผู้ศึกษาเป็นอย่างมาก  เพราะมีความคิดว่าครูมี
                   ความรู้สึกอคติกับตัวเอง  จึงไม่ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ไม่ยอมท ากิจกรรมต่างๆ ที่จัดให้ใน
                   เวลาเรียน ไม่ให้ความร่วมมือในการท ากรณีศึกษาในครั้งนี้ เวลาท างานกลุ่มก็จะมีปัญหากับเพื่อนในกลุ่มเสมอๆ
                          การติดตามผลในช่วงที่  2   มีพฤติกรรมการเรียนดีขึ้น  ให้ความร่วมมือในการท ากิจกรรมต่างๆมากขึ้น

                   แต่ก็ยังท างานช้า  และพูดกับเพื่อนในชั้นมากขึ้นในบางครั้ง  แต่ก็ยังไม่สามารถเข้ากับเพื่อนคนอื่นๆ ได้  เวลาว่างก็
                   จะมานั่งอ่านหนังสือนวนิยายคนเดียวอยู่คนเดียว
                          การติดตามผลในช่วงที่  3   มีพฤติกรรมดีขึ้นมาก  ตั้งใจเรียน  และให้ความร่วมมือ  ในการท ากิจกรรม
                   ต่างๆ     เวลาท างานกลุ่มก็จะช่วยเพื่อนในกลุ่มท างานเป็นอย่างดี

                   ยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนมากขึ้น มีความกระตือรือร้น และทบทวนบทเรียนอยู่เสมอๆ  จึงท าให้เวลามีการ
                   สอบเก็บคะแนน  ก็ท าคะแนนได้ดี


                   8.  อุปสรรคในการแก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือมีดังนี้
                          ในช่วงแรกไม่ให้ความร่วมมือในการท ากิจกรรมการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เครื่องกลเพราะคิดว่าวิชา
                   คณิตศาสตร์เครื่องกลยากไม่รู้เรื่อง และไม่ค่อยท าแบบฝึกหัด  ผู้ศึกษาจึงเริ่มศึกษาและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ  นาย
                   รุ่งโรจน์ การให้ข้อมูลบางข้อมูลไม่ตรงกัน แต่หลังจากได้ให้ความสนิทสนมกับเด็กทั้งในและนอกเวลาเรียน  เด็กก็
                   เริ่มไว้ใจและให้ความร่วมมือ  รวมถึงการตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น


                   9.  ข้อเสนอแนะ
                          ในการศึกษารายกรณี  ผู้ศึกษาจะต้องพยายามศึกษาเด็ก  และท าความเข้าใจเขาให้มาก  เพื่อหาทางแก้ไข

                   ปัญหาที่เกิดขึ้น  ในช่วงแรก  เด็กอาจจะไม่ให้ความร่วมมือ  ผู้ศึกษาควรเก็บรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ ด้าน และ
                   สร้างความสนิทสนมกับเด็ก การแก้ไขปัญหาก็ควรร่วมมือกันทุกฝ่ายทั้งครู ผู้ปกครอง เพื่อนนักเรียน และตัวเด็กเอง

                   10.  การท าการศึกษารายกรณีครั้งนี้มีประโยชน์ต่อการประกอบวิชาครูของนักศึกษาคือ

                          1. ท าให้ได้เข้าใจ  และทราบถึงความต้องการ  ธรรมชาติของเด็กนักเรียนมากยิ่งขึ้น
                          2. สามารถหาทางแก้ไขพฤติกรรมของเด็กนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น  อย่างถูกต้องและเหมาะสม
                       3. รู้จักหน้าที่ของครู  ที่ไม่ใช่เฉพาะการสอนหนังสือเด็กนักเรียนเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาพฤติกรรมของเด็ก
                       ทั้งทางด้านร่างกาย  อารมณ์  สังคม  และสติปัญญาไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ

                       สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข
   387   388   389   390   391   392   393   394   395   396   397