Page 65 - คู่มือแรงงานwork manual Protection
P. 65
ตัวอย่างโครงการ
โครงการเฝ้าระวังและคุ้มครองแรงงานจากการหยุดกิจการชั่วคราวและเลิกจ้าง
ื่
เพอป้องกันการละเมิดสิทธิประโยชน์แรงงานตามกฎหมาย
1. หลักการและเหตุผล
สถานการณ์โรคระบาดเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2020 ในหลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับการระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งการแพร่ระบาดของเชื้อได้ขยายวงกว้างขึ้นทั่วโลกและมีจำนวน
ุ่
ผู้ติดเชื้อพงสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศไทยทั้งทางตรง
และทางออมเกิดปัญหาติดขัดทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน และการดำเนินธุรกิจหลายธุรกิจประสบปัญหา
้
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศของไทยได้ลดน้อยลงจนเท่ากับศูนย์ แต่การที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก
ื้
ยังไม่กลับมาเป็นปกตินี้ จะยังส่งผลให้ภาคการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวของไทยฟนตัวช้ากว่าที่คาดการณ์
่
กันไว้ในช่วงกอนหน้า อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ยังคงประเมินว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยได้ผ่านจุด
ต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ล็อกดาวน์ กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ในระยะต่อไปสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง สำหรับธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางลบจาก COVID - 19
ั
อนได้แก่ โรงแรม ยานยนต์ และเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม การลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเป็นสิ่งที่ต้องทำโดยเกิดขึ้น
หลาย ๆ รูปแบบ เช่น การเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวและแรงงานไร้ฝีมือ แรงงานต่างด้าว ตัดการทำงานล่วงเวลา
ลดชั่วโมงการทำงาน ลดเงินเดือน ไปจนถึงหยุดกิจการชั่วคราวตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง
แรงงาน พ.ศ. 2541 หยุดกิจการชั่วคราวเนื่องจากเหตุสุดวิสัยและให้ลูกจ้างขอรับประโยชน์ทดแทน
กรณีว่างงานกับสำนักงานประกันสังคม (ร้อยละ 62 ของอตราค่าจ้างรายวัน) หรือบางกิจการไม่อาจแบกรับภาระ
ั
ค่าใช้จ่าย มีภาวะขาดทุนสะสมไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ จนต้องเลิกจ้างลูกจ้างหรือปิดกิจการในที่สุด
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นหน่วยงานหลักของประเทศไทยในการคุ้มครองแรงงานให้ได้รับ
สิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย โดยเป้าหมายหลักของการคุ้มครองแรงงาน คือ การพฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน
ั
ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี อย่างไรก็ตามแรงงานจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ได้หากไม่มีงานทำ ซึ่งงานต่าง ๆ จะเกิดขึ้นได้
จากการจ้างงานของสถานประกอบกิจการ ดังนั้น หากสถานประกอบกิจการหรือนายจ้างไม่สามารถจ้างงานได้
แรงงานจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ได้เช่นกัน
จากข้อมูลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 (ตุลาคม 2562 –
กันยายน 2563) พบว่า มีสถานประกอบกิจการจำนวน 4,905 แห่ง มีการหยุดกิจการชั่วคราวตามมาตรา 75
ส่งผลกระทบต่อลูกจ้าง จำนวน 956,979 คน โดยจากจำนวนสถานประกอบกิจการดังกล่าวเป็นสถานประกอบ
กิจการที่มีแนวโน้มที่จะมีการเลิกจ้างลูกจ้างบางส่วนหรือปิดกิจการและเลิกจ้างลูกจ้างทั้งหมด และมีสถาน
ประกอบกิจการ จำนวน 1,488 แห่ง มีการเลิกจ้างซึ่งส่งผลกระทบต่อลูกจ้าง จำนวน 23,045 คน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในฐานะหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพอให้ลูกจ้าง
ื่
ได้รับสิทธิประโยชน์ขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด จึงมีหน้าที่สำคัญในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบ
ื่
กรณีการหยุดกิจการชั่วคราว และการเลิกจ้างของสถานประกอบกิจการต่าง ๆ เพอป้องกันมิให้มีการละเมิดสิทธิ
ของลูกจ้าง ตลอดจนการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายและให้คำแนะนำนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้เกี่ยวข้อง
ในสถานประกอบกิจการให้สามารถบริหารจัดการแรงงานในภาวะวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ แรงงานได้รับ
การคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่ถูกละเมิดสิทธิจากการหยุดกิจการชั่วคราวและเลิกจ้าง ดังนั้น โครงการเฝ้าระวัง
ื่
และคุ้มครองแรงงานจากการหยุดกิจการชั่วคราวและการเลิกจ้างเพอป้องกันการละเมิดสิทธิประโยชน์แรงงาน
ตามกฎหมายจึงมีความสำคัญยิ่งต่อการสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและเศรษฐกิจ
ที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง และผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งเป็นกลไกในการคุ้มครองสวัสดิการ
ั
ของผู้ใช้แรงงานให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานขั้นต่ำตามหลักสากล นำไปสู่การพฒนาคุณภาพชีวิต
แรงงานอย่างยั่งยืน
55

