Page 109 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 109
- ๑๐๙ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ั
มำตรำ ๖๕๗ อนว่ำฝำกทรัพย์นั้น คือสัญญำซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้ฝำก ส่งมอบ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ทรัพย์สินให้แกบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้รับฝำก และผู้รับฝำกตกลงว่ำจะเก็บรักษำทรัพย์สินนั้นไว้ใน
่
ี
ี
ี
อำรักขำแห่งตน แล้วจะคืนให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ึ
ื่
มำตรำ ๖๕๘ ถ้ำโดยพฤติกำรณ์พงคำดหมำยได้ว่ำเขำรับฝำกทรัพย์ก็เพอจะได้รับ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
บ ำเหน็จค่ำฝำกทรัพย์เท่ำนั้นไซร้ ท่ำนให้ถือว่ำเป็นอันได้ตกลงกันแล้วโดยปริยำยว่ำมีบ ำเหน็จเช่นนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๖๕๙ ถ้ำกำรรับฝำกทรัพย์เป็นกำรท ำให้เปล่ำไม่มีบ ำเหน็จไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับ
ฝำกจ ำต้องใช้ควำมระมัดระวังสงวนทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นเหมือนเช่นเคยประพฤติในกิจกำรของตนเอง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ถ้ำกำรรับฝำกทรัพย์นั้นมีบ ำเหน็จค่ำ ฝำก ท่ำนว่ำผู้รับฝำกจ ำต้องใช้ควำมระมัดระวัง
และใช้ฝีมือเพ่อสงวนทรัพย์สินนั้นเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงประพฤติโดยพฤติกำรณ์ดังนั้น ทั้งนี้
ื
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ย่อมรวมทั้งกำรใช้ฝีมืออันพิเศษเฉพำะกำรในที่จะพึงใช้ฝีมือเช่นนั้นด้วย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ถ้ำและผู้รับฝำกเป็นผู้มีวิชำชีพเฉพำะกิจกำรค้ำขำยหรืออำชีวะอย่ำงหนึ่งอย่ำงใดก็
ี
ี
ี
จ ำต้องใช้ควำมระมัดระวังและใช้ฝีมือเท่ำที่เป็นธรรมดำจะต้องใช้และสมควรจะต้องใช้ในกิจกำร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ค้ำขำยหรืออำชีวะอย่ำงนั้น ี ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๖๖๐ ถ้ำผู้ฝำกมิได้อนุญำต และผู้รับฝำกเอำทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นออกใช้สอย
เอง หรือเอำไปให้บุคคลภำยนอกใช้สอย หรือให้บุคคลภำยนอกเก็บรักษำไซร้ ท่ำนว่ำผู้รับฝำกจะต้อง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
รับผิดเมื่อทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นสูญหำยหรือบุบสลำยอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด แม้ถึงจะเป็นเพรำะเหตุสุดวิสัย
เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ำถึงอย่ำงไร ๆ ทรัพย์สินนั้นก็คงจะต้องสูญหำยหรือบุบสลำยอยู่นั่นเอง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๖๖๑ ถ้ำบุคคลภำยนอกอ้ำงว่ำมีสิทธิเหนือทรัพย์สินซึ่งฝำกและยื่นฟ้องผู้รับ
ี
ี
ฝำกก็ดี หรือยึดทรัพย์สินนั้นก็ดี ผู้รับฝำกต้องรีบบอกกล่ำวแก่ผู้ฝำกโดยพลัน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๖๖๒ ถ้ำได้ก ำหนดเวลำกันไว้ว่ำจะพงคืนทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นเมื่อไร ท่ำนว่ำ
ึ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ผู้รับฝำกไม่มีสิทธิจะคืนทรัพย์สินก่อนถึงเวลำก ำหนด เว้นแต่ในเหตุจ ำเป็นอันมิอำจจะก้ำวล่วงเสียได้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ึ
มำตรำ ๖๖๓ ถึงแม้ว่ำคู่สัญญำจะได้ก ำหนดเวลำไว้ว่ำจะพงคืนทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้น
เมื่อไรก็ตำม ถ้ำว่ำผู้ฝำกจะเรียกคืนในเวลำใด ๆ ผู้รับฝำกก็ต้องคืนให้ ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ีำ ๖๖๔ ถ้ำคู่สัญญำไม่ได้ก ำหนดเวลำไว้ว่ำจะพึงคืนทรัพย์สินซึ่งฝำกนั้นเมื่อไร
มำตร
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ไซร้ ผู้รับฝำกอำจคืนทรัพย์สินนั้นได้ทุกเมื่อ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๖๖๕ ผู้รับฝำกจ ำต้องคืนทรัพย์สินซึ่งรับฝำกไว้นั้นให้แก่ผู้ฝำก หรือทรัพย์สิน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
นั้นฝำกในนำมของผู้ใด คืนให้แก่ผู้นั้น หรือผู้รับฝำกได้รับค ำสั่งโดยชอบให้คืนทรัพย์สินนั้นไปแก่ผู้ใด
ี
ี
ี
คืนให้แก่ผู้นั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
แต่หำกผู้ฝำกทรัพย์ตำย ท่ำนให้คืนทรัพย์สินนั้นให้แก่ทำยำท
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

