Page 111 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564
P. 111

- ๑๑๑ -           ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ



                          ื่
                   รับผิดเพอควำมสูญหำยหรือบุบสลำยอย่ำงใด ๆ อนเกิดแกทรัพย์สินซึ่งคนเดินทำงหรือแขกอำศัยหำก
                                                                   ่
                                                            ั
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                   ได้พำมำ
                                                                                                            ี
                                                                         ี
                                      ี

                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                                           ี
                                                        ี
                                 มำตรำ ๖๗๕  เจ้ำส ำนักต้องรับผิดในกำรที่ทรัพย์สินของคนเดินทำงหรือแขกอำศัย

                   สูญหำยหรือบุบสลำยไปอย่ำงใด ๆ แม้ถึงว่ำควำมสูญหำยหรือบุบสลำยนั้นจะเกิดขึ้นเพรำะผู้คนไปมำ
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                                                            ี
                                      ี
                                                                         ี
                   เข้ำออก ณ โรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่เช่นนั้น ก็คงต้องรับผิด

                                 ควำมรับผิดนี้ ถ้ำเกี่ยวด้วยเงินทองตรำ ธนบัตร ตั๋วเงิน พนธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้
                                                                                  ั
                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                                           ี
                                                        ี
                                      ี
                   ประทวนสินค้ำ อัญมณ หรือของมีคำอื่น ๆ ให้จ ำกัดไว้เพียงห้ำพันบำท เว้นแต่จะได้ฝำกของมีค่ำเช่นนี้
                                                ่

                   ไว้แก่เจ้ำส ำนักและได้บอกรำคำแห่งของนั้นชัดแจ้ง
                                                            ๑๓
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                                                            ี
                                      ี
                                                                         ี
                                                        ื่
                                 แต่เจ้ำส ำนักไม่ต้องรับผิดเพอควำมสู  ญหำยหรือบุบสลำยอันเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือ
                   แต่สภำพแห่งทรัพย์สินนั้น หรือแต่ควำมผิดของคนเดินทำง หรือแขกอำศัยผู้นั้นเอง หรือบริวำรของ
                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                        ี
                                                                                           ี
                   เขำ หรือบุคคลซึ่งเขำได้ต้อนรับ
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ

                                      ี
                                                                                                            ี
                                                                         ี

                                 มำตรำ ๖๗๖  ทรัพย์สินซึ่งมิได้น ำฝำกบอกรำคำชัดแจ้งนั้น เมื่อพบเห็นว่ำสูญหำย
                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                        ี
                                                                                           ี
                   หรือบุบสลำยขึ้น คนเดินทำงหรือแขกอำศัยต้องแจ้งควำมนั้นต่อเจ้ำส ำนักโรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่

                   เช่นนั้นทันที มิฉะนั้นท่ำนว่ำเจ้ำส ำนักย่อมพ้นจำกควำมรับผิดดังบัญญัติไว้ในมำตรำ ๖๗๔ และ ๖๗๕
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                      ี
                                                                                                            ี
                                                                         ี

                                 มำตรำ ๖๗๗  ถ้ำมีค ำแจ้งควำมปิดไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่อื่นท ำนองเช่นว่ำ
                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                        ี
                                                                                           ี
                   นี้ เป็นข้อควำมยกเว้นหรือจ ำกัดควำมรับผิดของเจ้ำส ำนักไซร้ ท่ำนว่ำควำมนั้นเป็นโมฆะ เว้นแต่คน

                   เดินทำงหรือแขกอำศัยจะได้ตกลงด้วยชัดแจ้งในกำรยกเว้นหรือจ ำกัดควำมรับผิดดังว่ำนั้น
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                         ี
                                      ี
                                                                                                            ี

                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                 มำตรำ ๖๗๘  ในข้อควำมรับผิดใช้ค่ำสินไหมทดแทนเพอทรัพย์สินของคนเดินทำง
                                                                                ื่
                                                        ี
                                                                                           ี

                                                                      ้
                                                                             ้
                   หรือของแขกอำศัยสูญหำยหรือบุบสลำยนั้น ท่ำนห้ำมมิให้ฟองเมื่อพนเวลำหกเดือนนับแต่วันที่คน
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                   เดินทำงหรือแขกอำศัยออกไปจำกสถำนที่นั้น
                                                                                                            ี
                                                                         ี
                                      ี

                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                                           ี
                                                        ี
                                                                                                 ื่
                                 มำตรำ ๖๗๙  เจ้ำส ำนักชอบที่จะยึดหน่วงเครื่องเดินทำงหรือทรัพย์สินอย่ำงอนของ

                                           ั
                   คนเดินทำงหรือแขกอำศัยอนเอำไว้ในโรงแรม โฮเต็ล หรือสถำนที่เช่นนั้นได้จนกว่ำจะได้รับใช้เงิน
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                         ี
                                                                                                            ี
                                      ี
                                                                     ั
                                                               ื่
                   บรรดำที่ค้ำงช ำระแก่ตน เพอกำรพกอำศัยและกำรอน ๆ อนได้ท ำให้แก่คนเดินทำงหรือแขกอำศัย
                                          ื่
                                                 ั

                   ตำมที่เขำพึงต้องกำรนั้น รวมทั้งกำรชดใช้เงินทั้งหลำยที่ได้ออกแทนไปด้วย   ี
                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                        ี
                                 เจ้ำส ำนักจะเอำทรัพย์สินที่ได้ยึดหน่วงไว้เช่นว่ำนั้นออกขำยทอดตลำดแล้วหักเอำเงิน

                   ใช้จ ำนวนที่ค้ำงช ำระแก่ตนรวมทั้งค่ำฤชำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำยในกำรขำยทอดตลำดนั้นจำกเงินที่
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                         ี
                                      ี
                                                                                                            ี
                   ขำยทรัพย์สินนั้นก็ได้ แต่ท่ำนมิให้เจ้ำส ำนักใช้สิทธิดังว่ำนี้ จนเมื่อ

                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                 (๑) ทรัพย์สินนั้นตกอยู่แก่ตนเป็นเวลำนำนถึงหกสัปดำห์ยังมิได้รับช ำระหนี้สิน และ
                                                                                           ี
                                                        ี

                                 (๒) อย่ำงน้อยเดือนหนึ่งก่อนวันขำยทอดตลำด ตนได้ประกำศโฆษณำใน
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                   หนังสือพิมพ์ประจ ำท้องถิ่นฉบับหนึ่งแจ้งควำมจ ำนงที่จะขำยทรัพย์สิน บอกลักษณะแห่งทรัพย์สินที่จะ
                                                                         ี
                                                                                                            ี
                                      ี
                   ขำยโดยย่อ กับถ้ำรู้ชื่อเจ้ำของ ก็บอกด้วย
                                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                      ี                    ี

                                 ๑๓  มำตรำ ๖๗๕ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระรำชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมำยแพ่ง
               ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ             ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ                 ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
                                                                                                            ี
                                      ี
                                                                         ี
                   และพำณิชย์ (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๔๘
   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116