Page 147 - ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์2564

- ๑๔๗ - ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ

คู่สัญญำแห่งตั๋วเงินนั้นได้เลย หรือเป็นได้แต่ไม่เต็มผลไซร้ ท่ำนว่ำกำรนี้ย่อมไม่กระทบกระทั่งถึงควำม
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
รับผิดของบุคคลอื่น ๆ นอกนั้นซึ่งคงต้องรับผิดตำมตั๋วเงิน
ี
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๙๐๓ ในกำรใช้เงินตำมตั๋วเงิน ท่ำนมิให้ให้วันผ่อน
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
มำตรำ ๙๐๔ อันผู้ทรงนั้น หมำยควำมว่ำ บุคคลผู้มีตั๋วเงินไว้ในครอบครอง โดยฐำน

เป็นผู้รับเงิน หรือเป็นผู้รับสลักหลัง ถ้ำและเป็นตั๋วเงินสั่งจ่ำยให้แก่ผู้ถือ ๆ ก็นับว่ำเป็นผู้ทรงเหมือนกัน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี

มำตรำ ๙๐๕ ภำยในบังคับแห่งบทบัญญัติมำตรำ ๑๐๐๘ บุคคลผู้ได้ตั๋วเงินไว้ใน
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ึ
ครอบครอง ถ้ำแสดงให้ปรำกฏสิทธิด้วยกำรสลักหลังไม่ขำดสำย แม้ถงว่ำกำรสลักหลังรำยที่สุดจะเป็น

สลักหลังลอยก็ตำม ท่ำนให้ถือว่ำเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมำย เมื่อใดรำยกำรสลักหลังลอยมีสลัก
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
หลังรำยอนตำมหลังไปอีก ท่ำนให้ถือว่ำบุคคลผู้ที่ลงลำยมือชื่อในกำรสลักหลังรำยที่สุดนั้น เป็นผู้ได้ไป

ื่
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ซึ่งตั๋วเงินด้วยกำรสลักหลังลอย อนึ่ง ค ำสลักหลังเมื่อขีดฆ่ำเสียแล้ว ท่ำนให้ถือเสมือนว่ำมิได้มีเลย
ี
ี
ี

ถ้ำบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดต้องปรำศจำกตั๋วเงินไปจำกครอบครอง ท่ำนว่ำผู้ทรงซึ่งแสดงให้
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ปรำกฏสิทธิของตนในตั๋วตำมวิธีกำรดังกล่ำวมำในวรรคก่อนนั้น หำจ ำต้องสละตั๋วเงินไม่ เว้นแต่จะ

ได้มำโดยทุจริต หรือได้มำด้วยควำมประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรง
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
อนึ่ง ข้อควำมในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บังคับตลอดถึงผู้ทรงตั๋วเงินสั่งจ่ำยให้แก่ผู้ถือด้วย

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
มำตรำ ๙๐๖ ค ำว่ำคู่สัญญำคนก่อน ๆ นั้น รวมทั้งผู้สั่งจ่ำย หรือผู้ออกตั๋วเงินและ

ผู้สลักหลังคนก่อน ๆ ด้วย
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๙๐๗ เมื่อใดไม่มีที่ในตั๋วเงินซึ่งจะสลักหลังได้ต่อไปไซร้ ท่ำนอนุญำตให้เอำ
ี
ี

กระดำษแผ่นหนึ่งผนึกต่อเข้ำกับตั๋วเงินเรียกว่ำใบประจ ำต่อ นับเป็นส่วนหนึ่งแห่งตั๋วเงินนั้น
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
กำรสลักหลังในใบประจ ำต่อครั้งแรกต้องเขียนคำบบนตั๋วเงินเดิมบ้ำง บนใบประจ ำ
ี
ี
ี
ต่อบ้ำง
ี
ี
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ

หมวด ๒
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
ตั๋วแลกเงิน

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี

ส่วนที่ ๑
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี
กำรออกและสลักหลังตั๋วแลกเงิน

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ

ี
ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
มำตรำ ๙๐๘ อนว่ำตั๋วแลกเงินนั้น คือหนังสือตรำสำรซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้สั่ง
ั
ี
ี
ี

่

จ่ำย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่ำผู้จ่ำย ให้ใช้เงินจ ำนวนหนึ่งแกบุคคลคนหนึ่ง หรือให้ใช้ตำมคำสั่งของ
ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
บุคคลคนหนึ่งซึ่งเรียกว่ำผู้รับเงิน ี ี

ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ ส ำนักงำนคณะกรรมกำรกฤษฎกำ
ี
ี
ี