Page 12 - เอกสาร ว31207 edt 1
P. 12

8  |  เ อ กส า ร ป ร ะ กอ บ กา ร เ รี ย น                        โ ล ก  ดา ร า ศ า ส ตร์   แ ล ะ อ ว กา ศ :  ธ ร ณี วิ ท ย า   1


                          ่
            ความเร็วของคลืนไหวสะเทือน
                                                                              ี
                                                                              ่
                    คลื่นไหวสะเทือนแตละชนิดสามารถเดินทางผานชั้นหินตาง ๆ ไดดวยความเร็วท แตกตางกันขึ้นอยูกับสมบัติทางกายภาพ
            ของหินแตละชนิด เชน ระหวางดินแหงกับดินเปยก คาความหนาแนนยอมไมเทากัน ดังนั้นคาความเร็วคลื่นไหวสะเทือนภายในดินแหง
                    
            จึงแตกตางจากดินเปยก หรือระหวางหินทรายกับหินปูน คาความหนาแนนของหินทรายที่มีควอตซเปนองคประกอบ กับหินปูนที่มี
                                                                                                         ี
            แคลไซดเปนองคประกอบแตกตางกน ดังนั้นคาความเร็วคลื่นไหวสะเทือนยอมแตกตางกัน ตารางดานลางแสดงคาความเร็วคลื่นพและ
                                      ั
            คลื่นเอสของดินและหินที่สำคัญ

                                    ่
                       
                             ็
                                            ื
            ตารางแสดงคาความเรวของคลืนไหวสะเทอนของวัตถุชนิดตาง
                          ชนิดของวัสดุ   ความเรวคลืนปฐมภูมิ (เมตร/วินาท)  ความเรวคลืนทติยภูมิ (เมตร/วินาท)
                                                                               ่
                                                                                                ี
                                                                                 ุ
                                                                            ็
                                                  ่
                                              ็
                                                                   ี
                             อากาศ                   332                           -
                              น้ำ                1,400 - 1,500                     -
                           ปโตรเลียม             1,300 - 1,400                     -
                             
                             เหล็ก                  6,100                        3,500
                            คอนกรีต                 3,600                        2,000
                           หินแกรนิต             5,500 - 5,900                2,800 - 3,000
                           หินบะซอลต               6,400                        3,200
                            หินทราย              1,400 - 4,300                 700 - 2,800
                             หินปูน              5,900 - 6,100                2,800 - 3,000
                        ทราย (ยังไมแข็งตัว)     200 - 1,000                    80 - 400
                          ทราย (แข็งตัว)         800 - 2,200                    320 - 880

                           ดินหรือเคลย          1,000 - 2,500                 400 - 1,000
                         ตะกอนธารนั้าแข็ง        1,500 - 2,500                 600 - 1,000


                   ่
                               ่
            การเปลียนโหมดของคลืนไหวสะเทือน (Mode conversion)
                    เมื่อคลื่น P หรือคลื่น S กระทบกับรอยตอของ

            ตัวกลางตางชนิดกันแบบทำมุม จะเกิด การสะทอนและหัก
            เหของทั้งคลื่น P และ S เอสดังแสดงในรูป

                    จากรูปจะพบวาเมื่อคลื่น P หรือคลื่น S ตกกระทบ
            รอยตอของชั้นตาง ๆ จะปรากฎคลื่นสะทอนและหักเหท้ง ั

            คลื่น P และ คลื่น S ปรากฎการณนี้เราเรียกวาการเปลี่ยน
            โหมดของคลื่น (Mode conversion) ซึ่งทำให เราสามารถ
            อธิบายไดวาทำไมจึงพบคลื่น S บริเวณรอยตอของชั้นแกน   รูปลักษณะการเกิดคลื่นสะทอนและคลื่นหักเหแบบทำมุม
                                                      
                                                                   (ก) เมื่อคลื่น P ตกกระทบ (ข) เมื่อคลื่น S ตกกระทบ
            โลกชั้นนอกและแกน โลกชั้นใน คลื่น S ดังกลาวเปนคลื่นท ี ่
            แตกตัวออกมาจากคลื่น P ที่ตกกระทบรอยตอระหวางแกนโลกชั้นนอกและแกนโลกชั้นในนั่นเอง เมื่อคลื่น P ซึ่งเปนคลื่นตามยาวตก
            กระทบที่รอยตอของวัสดุ พลังงานบางสวนทำใหอนุภาคเคลื่อนที่ตามขวางจึงเกิดเปนคลื่น S การเปลี่ยนโหมดของคลื่นเกดขนเมื่อคลื่น
                                                                                                   ิ
                                                                                                     ึ้
            เคลื่อนที่กระทบกับรอยตอระหวางวัสดุตางชนิดกัน (ที่มีความตานทานตอการสะทอนตางกัน)



                                                                                                ี
                                                                                              ู
                             ั
                                                      ั
                            ์
                                                             ึ
                                                                ี
                                                                  ี
                ี
            โรงเรยนพรหมานุสรณจงหวัดเพชรบรี            ช�นมัธยมศกษาปท ่ 4           หน่วยการเรียนร้ท ่ 1 โครงสร้างโลก
                                     ุ
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17