Page 13 - คู่มือบัณฑิตศึกษา ปีการศึกษา 2563
P. 13

คู่มือนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น |   5

 ิ
 ๔       คู่มือนิสิตระดับบัณฑตศึกษา วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น   คู่มือนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น     ๕

 วิสัยทัศน์       ประวัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
    “มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาระดับโลก”       มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทยเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงของ
     World University of Buddhism, WUoB
                                            ิ
                  คณะสงฆ์ไทย ซึ่งสมเด็จบรมบพตรพระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้า
 พันธกิจ ๔ ด้าน    เจ้าอยู่หัว ได้ทรงให้ย้ายการสอนพระปริยัตธรรมจากศาลาบอกพระปรยัตธรรมภายในวัดพระศรรัตนศาสดา
                                                      ิ
                                                                             ิ
                                                                                                   ี
                                                                                ิ
                                         ื่
    การผลิตบัณฑิต   ราม ไปตั้งที่วัดมหาธาตุ เพอเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายและคฤหัสถ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ และ
 ้
 ี
 ิ
 ั
 ิ
 ึ
 ่
 ิ
 ิ
 ุ
 ็
 ุ
    ผลตบณฑตใหมคณภาพ เปนไปตามกรอบมาตรฐานคณวุฒระดับอุดมศกษาแหงชาต (TQF : HEd)   โปรดให้สถาปนาขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๒ มีชื่อเดิมว่า “มหาธาตุวิทยาลัย” และมีพระบรมราชโองการเปลี่ยนนาม
                                             ิ
                               ุ
                                                  ั
                                                                                                        ์
                                                                   ั
                                                                                          ี
 ุ
 ื่
 โดยใช้หลักธรรมทางพระพทธศาสนาบูรณาการในกระบวนการจัดการเรียนสอน เพอให้ได้บัณฑิตที่มีคุณภาพ   ใหม่ว่า “มหาจฬาลงกรณราชวทยาลย” เมื่อวันที่ ๑๓ กนยายน พ.ศ. ๒๔๓๙ โดยมพระราชประสงคจะให ้
                                                               ั
                                ิ
                                       ี
                                                         ื
                                                                                                   ่
                             ์
 ุ
 ั
 ุ
 ่
 ั
 เปนไปตามจดมงหมายของแผนพฒนาการศกษาแหงชาต ที่ให้การศึกษาเป็นเครื่องมือกลไกในการพฒนา  เป็นอนุสรณเฉลมพระเกยรติยศของพระองค์สบไป ดงปรากฎในประกาศพระราชปรารภในการกอพระฤกษ ์
 ิ
 ึ
 ่
 ็
 ทรัพยากรมนุษย์ ให้มีความเป็นพลเมือง (มีองค์ประกอบ ๔ ด้าน คือ มีคุณลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่พง  สังฆิกเสนาศน์ราชวิทยาลัย
 ึ
                                                                                      ิ
 ประสงค์ มีองค์ความรู้ที่ส าคัญในศตวรรษที่ ๒๑ มีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ และมีทักษะการ        มหาธาตุวิทยาลัยได้เปิดท าการสอนเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจกายน พ.ศ. ๒๔๓๒ ต่อมา
                                                                                  ั
                                          ี
                                  ์
                                                                           ั
                                                             ้
                                                                                ิ
                                                                              ั
 ด ารงชีวิต) และมีคุณลักษณะบัณฑิตที่พงประสงค์ตามนวลักษณ์ของบัณฑิต ๙ ประการ    พระยาภาสกรวงศ เสนาบดกระทรวงธรรมการ ไดยกร่างพระราชบญญตฉบบแรกของมหาจุฬาลงกรณราช
 ึ
                            ี
                         ั
                  วิทยาลย เรยกว่า ร่างพระราชบัญญัติมหาธาตุวิทยาลัย  ร.ศ. ๑๑๑ (พ.ศ. ๒๔๓๕) ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย
    นวลักษณ์ของบัณฑิต
    ๑. มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส                       M = Morality   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงน าเข้าปรึกษาในที่ประชุมเสนาบดี ร่างพระราชบัญญัติฉบับ
    ๒. รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของสังคม         A = Awareness   นี้ยังไม่ได้ลงพระปรมาภิไธย จึงถือว่ายังมิได้เป็นพระราชบัญญัติที่มีผลบังคับใช้แต่อย่างใด ต่อมา
                                                                                               ั
                  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดให้คิดแบบสร้างถาวรวัตถุ เรียกว่า “สงฆเสนาสน์ราช
    ๓. มีศรัทธาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา           H = Helpfulness   วิทยาลัย” ขึ้นในวัดมหาธาตุ เพอใช้เป็นสถานที่บ าเพญพระราชกุศลพระศพสมเด็จเจ้าฟามหาวชิรุณหิศ และ
                                                              ็
                                             ื่
                                                                                           ้
    ๔. มีความสามารถและทักษะด้านภาษา          A = Ability
                                                                                       ื่
    ๕. ใฝ่รู้ใฝ่คิด                                    C = Curiosity   ทรงประสงค์จะอุทิศถวายถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์ส าหรับมหาธาตุวิทยาลัย เพอเป็นที่เล่าเรียนพระปริยัติ
    ๖. รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม                 H = Hospitality   สัทธรรมและวิชาชั้นสูง โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด าเนินไปทรงวางศิลาก่อ
                  พระฤกษ์ เมื่อวันที่ ๑๓ กนยายน พ.ศ. ๒๔๓๙ และได้พระราชทานเปลยนนามมหาธาตุวิทยาลยเปนมหาจฬา
                                                                                                ั
                                       ั
                                                                             ่
                                                                                                          ุ
                                                                                                    ็
                                                                             ี
    ๗. มีโลกทัศน์กว้างไกล                           U = Universality   ลงกรณราชวิทยาลัย
    ๘. เป็นผู้น าด้านจิตใจและปัญญา                       L = Leadership
                              ื่
    ๙. มีศักยภาพพร้อมที่จะใช้และพัฒนานวัตกรรม   A = Aspiration      เพอเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศของพระองค์ ตามประกาศพระราชปรารภในการก่อพระฤกษ์สังฆ
                         ์
                                   ั
                  เสนาสนราชวิทยาลย ร.ศ. ๑๑๕ (พ.ศ. ๒๔๓๙) ความตอนหนึ่งว่า “จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้ง
    การวิจัยและพัฒนา   วิทยาลัยที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกแลวิชาชั้นสูงขึ้น ๒ สถานๆ หนึ่งเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่าย
 ื่
 ั
 ึ
    วิจัยและพฒนา หมายถง การวิจัยและค้นคว้า เพอสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมควบคู่ไปกับ  ธรรมยุติกนิกาย ได้ตั้งไว้ที่วัดบวรนิเวศวรวิหาร พระอารามหลวง พระราชทานนามว่า มหามกุฎราชวิทยาลัย
 กระบวนการเรียนการสอน เน้นการพัฒนาองค์ความรู้ในพระไตรปิฎก โดยวิธีสหวิทยาการแล้วน าองค์ความรู้ที่  อกสถานหนึ่งเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ได้ตั้งไว้ที่วัดมหาธาตุ ราชวรมหาวิหาร พระอาราม
                    ี
 คนพบมาประยุกตใช้แกปัญหาศลธรรม และจริยธรรมของสงคม รวมทงพฒนาคณภาพงานวิชาการด้าน  หลวงนี้ มีนามว่ามหาธาตุวิทยาลัย ได้เปิดการเล่าเรียนแต่วันที่ ๘ พฤศจกายน รตนโกสนทร์ ศก ๑๐๘ สืบมา
 ี
 ั
 ์
 ้
 ้
 ้
 ุ
 ั
 ั
                                                                              ิ
                                                                                     ั
                                                                                           ิ
                                                                                                ็
 พระพทธศาสนาโดยความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ที่มีชื่อเสียงทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ                            แต่สังฆิกเสนาสน์ส าหรับมหาธาตุวิทยาลัยนี้ยังไม่เป็นที่สมควรแก่การเล่าเรียน... เมื่อการบ าเพญพระราชกุศล
 ุ
                                                ุ
 เพื่อพัฒนาคุณภาพนักวิจัยและงานวิจัยให้มีคุณภาพ  และความเป็นสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ส่วนนั้นเสร็จแล้วจะได้ทรงพระราชอทิศถวายถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์ส าหรับมหาธาตุวิทยาลัย เพื่อเป็นที่
                  เล่าเรียนพระปริยัติสัทธรรมแลวิชาชั้นสูงสืบไปภายหน้า พระราชทานเปลี่ยนนามใหม่ว่า มหาจุฬาลงกรณราช
    การส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคม   วิทยาลัย เพื่อให้เป็นที่เฉลิมพระเกียรติยศสืบไป...”
 ึ
 ั
 ิ
 ่
 ่
 ิ
    ส่งเสรมพระพทธศาสนาและบรการวิชาการแกสงคม หมายถง การสงเสรมพระพทธศาสนาและ        มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้จัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนเดิมในนามมหาธาตุวิทยาลัย
 ิ
 ุ
 ุ
 บริการวิชาการแก่สังคม ตามปณิธานการจัดตั้งมหาวิทยาลัย ด้วยการปรับปรุงกิจกรรมต่างๆ ให้ประสาน  ตลอดมา จนกระทั่งวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐ พระมหาเถระฝายมหานิกาย จ านวน ๕๗ รูป มีพระพมล
                                                                          ่
                                                                                                          ิ
 สอดคล้อง เออต่อการส่งเสริม สนับสนุนกิจการคณะสงฆ์ สร้างความรู้ความเข้าใจหลักค าสอนทาง  ธรรม (ช้อย ฐานทตตเถร) เป็นประธานไดประชุมกน ณ ตาหนกสมเดจ วัดมหาธาตุฯ ประกาศใหมหาจฬาลง
 ื้

                                                                                                   ้
                                                                      ั
                                                                            ็
                                                            ั
                                                                                                        ุ
                                                     ้
                                  ั
 พระพุทธศาสนา สร้างจิตส านึกด้านคุณธรรมจริยธรรมแก่ประชาชน โดยการจัดประชุม สัมมนา และฝึกอบรม   กรณราชวิทยาลย ดาเนินการจัดการศกษาในรปมหาวิทยาลย ตามพระราชปณธานของพระบาทสมเดจพระ
                                                                                    ิ

                                                  ึ
                                ั
                                                                                                       ็
                                                                    ั
                                                         ู
 เพอพฒนาพระสงฆ์และบุคลากรทางศาสนา ให้มีศกยภาพในการธ ารงรักษา เผยแผ่หลักค าสอน และเป็นแกน  จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้เปิดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่
 ื่
 ั
 ั
 หลักในการพัฒนาจิตใจในวงกว้าง
                                                                                                 ิ
                                                                                         ั
                                                           ็
                                                                  ้
                                                                       ุ
                  ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นต้นมา อย่างไรกตาม แมมหาจฬาลงกรณราชวิทยาลยจะได้เปดการศึกษาใน

    การทะนุบ ารุงศิลปะและวัฒนธรรม   รูปแบบมหาวิทยาลัยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๐ เป็นต้นมา ทางบ้านเมืองก็มิได้รับรองสถานภาพให้เป็นมหาวิทยาลัย
                                ่
                                                                            ่
                                ั
                                      ็
                                                                                                           ั
                                                                                                 ์
                                                                                      ์
 ั
    ทะนุบ ารุงศิลปะและวัฒนธรรม หมายถึง การเสริมสร้างและพฒนาแหล่งการเรียนรู้ด้านการทะนุบ ารุง  ตามกฎหมาย นนคงเปนเพราะว่าประกาศพระราชปรารภในการกอพระฤกษสังฆเสนาสนราชวิทยาลย
 ื้
 ุ
 ศิลปะและวัฒนธรรม ให้เออต่อการศึกษาโดยใช้พระพทธศาสนาเป็นกลไกเพอสร้างจิตส านึกและความ  ร.ศ.๑๑๕ (พ.ศ. ๒๔๓๙) ที่หลวงวิจิตรวาทการกล่าวถึงนั้นเป็นเพียงประกาศพระราชปรารภในการวางศิลาฤกษ์
 ื่
 ภาคภูมิใจในความเป็นไทย รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุนให้มีการน าภูมิปัญญาท้องถิ่น มาเป็นรากฐานของการ  อาคารของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งไม่อาจถือได้ว่าเป็นพระราชบัญญัติมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
 พัฒนาอย่างมีดุลยภาพและยั่งยืน   เพราะยังไม่ได้ลงพระปรมาภิไธย
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18