Page 14 - คู่มือบัณฑิตศึกษา ปีการศึกษา 2563
P. 14
6 | คู่มือนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น
ิ
๖ คู่มือนิสิตระดับบัณฑตศึกษา วิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น
ิ
ั
้
ต่อมาพระพมลธรรม (ช้อย ฐานทัตตมหาเถร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ไดจดประชุม
ุ
พระมหาเถระฝ่ายมหานิกาย จ านวน ๕๗ รูป เมื่อวันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐ และประกาศให้มหาจฬาลง
กรณราชวิทยาลัย ด าเนินการจัดการศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงในระดับมหาวิทยาลัย
ุ
เปิดสอนระดับปริญญาตรี คณะพทธศาสตร์เป็นคณะแรก เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๐ จากน้น พ.ศ.
ั
๒๕๐๐ ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการวัดผลมาเป็นระบบหน่วยกิต ก าหนดให้นิสิตต้องศึกษา
อย่างน้อย ๑๒๖ หน่วยกิต และปฏิบัติศาสนกิจ ๑ ปี ก่อนขออนุมัติส าเร็จการศึกษา เพื่อเข้ารับปริญญาบัตร
์
ั
ู
ิ
พ.ศ. ๒๕๐๕ เปดสอนคณะครุศาสตร และ พ.ศ. ๒๕๐๖ เปิดสอนหลกสตรแผนกอบรมครูศาสน
ศึกษา ระดับประกาศนียบัตรและเปิดสอนคณะเอเชียอาคเนย์ และเปลี่ยนเป็นคณะมานุษยสงเคราะห์ศาสตร์
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๖ และ พ.ศ. ๒๕๑๒ ปรับหลักสูตรแผนกอบรมครูศาสนศึกษาเป็นวิทยาลัยครูศาสนศึกษา และ
ปรับเปลี่ยนหน่วยกิตเป็น ๒๐๐ หน่วยกิต อย่างไรก็ดี การจัดการเรียนการสอนช่วง ๒ ทศวรรษแรก ยังไม่ได้รับ
ี่
การสนับสนุนจากคณะสงฆ์และรัฐเท่าทควร ท าให้ประสบปัญหาด้านสถานะของมหาวิทยาลัย และงบประมาณ
เป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถจัดการศึกษามาได้อย่างต่อเนื่อง
ุ
ต่อมาได้ตราพระราชบัญญัติก าหนดวิทยฐานะผู้ส าเร็จการศึกษาวิชาพระพทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๒๗
ท าให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จากที่เคยมีวิทยาเขตเพยงหนึ่งแห่งในพ.ศ. ๒๕๒๗ ได้มีวิทยาเขตเพมขึ้น
ี
ิ่
่
ั
เป็น ๙ แหงใน พ.ศ. ๒๕๓๔ มหาวิทยาลยจัดตั้งบัณฑิตวิทยาลัยใน พ.ศ. ๒๕๓๑ และเปิดการศึกษาระดับ
ปริญญาโทในปีเดียวกัน ปัญหาที่ตามก็คือการที่มหาวิทยาลัยไม่มีสถานภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย ท าให้
ั
การประสานงานกบวิทยาเขตไม่บรรลุผล ทั้งในด้านบริหารทั่วไปและการบริหารงบประมาณ นอกจากนี้
พระราชบัญญัติก าหนดวิทยฐานะผู้ส าเรจการศกษาวิชาการพระพุทธศาสนา พ.ศ. ๒๕๒๗ รับรองวิทยฐานะ
็
ึ
เฉพาะปริญญาตรี ไม่รับรองวิทยฐานะระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก
ิ
็
ั
ิ
้
ุ
วันที่ ๒๑ กนยายน พ.ศ. ๒๕๔๐ พระบาทสมเดจพระปรมนทรมหาภูมพลอดลยเดชฯ ไดทรงลง
พระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองฉบับ คือ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราช
ุ
ั
ั
ั
วิทยาลย พ.ศ. ๒๕๔๐ และพระราชบญญตมหาวิทยาลยมหาจฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และ
ิ
ั
พระราชบัญญัติก าหนดวิทยฐานะผู้ส าเร็จวิชาการพระพทธศาสนา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๐ ในวันที่ ๑ ตุลาคม
ุ
พ.ศ. ๒๕๔๐ พระราชบัญญัติทั้ง ๓ ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๕๑
ในขณะที่หลังยุคที่มีการตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๑ - ๒๕๕๘ ระดับ
ปริญญาตรี ปัจจุบันเปิดสอนใน ๔ คณะ มีหลักสูตร รวมทั้งสิ้น ๒๖ สาขาวิชา คือ คณะพทธศาสตร์ สาขาวิชา
ุ
์
์
์
คณะครศาสตร ๔ สาขาวิชา คณะมนษยศาสตร ๔ สาขาวิชา และคณะสงคมศาสตร ๗ สาวิชา โดยหลักสูตร
ุ
ุ
ั
ทั้งหมดนี้ ยังได้เปิดสอนที่วิทยาเขต วิทยาลัย โครงการขยายห้องเรียน หน่วยวิทยบริการ และสถาบันสมทบ
ของมหาวิทยาลัย
ุ
ุ
(ก) หลักสูตรคณะพทธศาสตร์ ประกอบด้วย ๑๑ สาขาวิชา คือ (๑) สาขาวิชาพระพทธศาสนา (๒)
ุ
สาขาวิชาศาสนา (๓) สาขาวิชาปรัชญา (๔) สาขาวิชาบาลีพทธศาสตร์ (๕) สาขาวิชาภาษาบาล (๖) สาขาวิชา
ี
ุ
บาลีสันสกฤต (๗) สาขาวิชาพทธศลปกรรม (๘) สาขาวิชามหายานศกษา (๙) สาขาวิชาพระพทธศาสนา
ุ
ิ
ึ
มหายาน (๑๐) สาขาวิชาพระพุทธศาสนาจีน (๑๑) สาขาวิชาภาวะผู้น าทางพระพุทธศาสนา
้
(ข) หลกสตรคณะครศาสตร์ ประกอบดวย ๑๑ สาขาวิชา คอ (๑) สาขาวิชาสงคมศึกษา (๒)
ั
ุ
ู
ื
ั
ุ
ั
สาขาวิชาการสอนภาษาไทย (๓) สาขาวิชาการสอนภาษาองกฤษ (๔) สาขาวิชาการสอนพระพทธศาสนาและ
จิตวิทยาแนะแนว
(ค) หลักสูตรคณะมนุษยศาสตร์ ประกอบด้วย ๔ สาขาวิชา คอ (๑) สาขาวิชาภาษาไทย (๒)
ื
สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (๓) สาขาวิชาจิตวิทยา (๔) สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา
์
ื
ั
(ง) หลักสูตรคณะสังคมศาสตร์ ประกอบด้วย ๗ สาขาวิชา คอ (๑) สาขาวิชารฐศาสตร (๒)
ุ
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ (๓) สาขาวิชาการจัดการเชิงพทธ (๔) สาขาวิชาสังคมวิทยา (๕) สาขาวิชาสังคม
สงเคราะห์ศาสตร์ (๖) สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ (๗) สาขาวิชานิติศาสตร์

