Page 204 - วิทยาศาสตร์ ม.ปลาย
P. 204

196

    ต่อมาในปี พ.ศ. นกั วิทยาศาสตร์ชาวฝรังเศสชือชาลส์ มารีเดอลา คองตามนี ์ (Charles Merie de la
Condamine) ไดใ้ หช้ ือเรียกยางตามคาํ พืนเมืองของชาวไมกาว่า "คาโอชู" (Caoutchouc) ซึงแปลว่าตน้ ไม้
ร้องไห้ และใหช้ ือเรียกของเหลวทีมีลกั ษณะขุ่นขาวคลา้ ยนาํ นมซึงไหลออกมาจากตน้ ยาง เมือกรีดเป็ นรอย
แผลว่า ลาเทกซ์ (latex) และใน พ.ศ. ฟาราเดย์ (Faraday) ได้รายงานว่ายางธรรมชาติเป็ นสารที
ประกอบดว้ ย ธาตุคาร์บอนและไฮโดรเจน มีสูตรเอมไพริเคิล คือ C H หลงั จากนัน จึงไดม้ ีการปรับปรุง
สมบตั ิของยางพาราเพือใหใ้ ชง้ านไดก้ วา้ งขึนเพือตอบสนองความตอ้ งการของมนุษย์

      การผลติ ยางธรรมชาติ
      แหล่งผลิตยางธรรมชาติทีใหญ่ทีสุดในโลกคือ แถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตค้ ิดเป็ นร้อยละ ของ
แหลง่ ผลิตทงั หมด ส่วนทีเหลือมาจากแอฟริกากลาง ซึงพนั ธุย์ างทีผลติ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ คือ
พนั ธุฮ์ ีเวยี บราซิลเลียนซิส (Hevea brasiliensis) นาํ ยางทีกรีดไดจ้ ากตน้ จะเรียกว่านาํ ยางสด (field latex) นาํ ยาง
ทีไดจ้ ากตน้ ยางมลี กั ษณะเป็นเมด็ ยางเลก็ ๆ กระจายอยใู่ นนาํ (emulsion) มีลกั ษณะเป็ นของเหลวสีขาว มีสภาพ
เป็นคอลลอยด์ มปี ริมาณของแข็งประมาณร้อยละ - pH . - นาํ ยางมีความหนาแน่นประมาณ . -
. กรัมต่อมิลลลิ ติ ร มีความหนืด - เซนติพอยส์ ส่วนประกอบในนาํ ยางสดแบ่งออกไดเ้ ป็น ส่วน คือ

     1. ส่วนทีเป็นเนือยาง %
     2. ส่วนทีไม่ใช่ยาง %

         2.1 ส่วนทีเป็นนาํ %
         2.2 ส่วนของลทู อยด์ %
    นาํ ยางสดทีกรีดไดจ้ ากตน้ ยาง จะคงสภาพความเป็นนาํ ยางอยไู่ ดไ้ ม่เกิน ชวั โมง เนืองจากแบคทีเรีย
ในอากาศ และจากเปลือกของตน้ ยางขณะกรีดยางจะลงไปในนาํ ยาง และกินสารอาหารทีอย่ใู นนาํ ยาง เช่น
โปรตีน นาํ ตาล ฟอสโฟไลปิ ด โดยแบคทีเรียจะเจริญเติบโตอยา่ งรวดเร็ว ปฏกิ ิริยาทีเกิดขึนหลงั จากแบคทีเรีย
กินสารอาหาร คือ จะเกิดการยอ่ ยสลายไดเ้ ป็นก๊าซชนิดต่าง ๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน เริม
เกิดการบดู เน่าและส่งกลนิ เหมน็ การทีมกี รดทีระเหยง่ายเหลา่ นีในนาํ ยางเพมิ มากขึน จะส่งผลใหค้ ่า pH ของ
นาํ ยางเปลยี นแปลงลดลง ดงั นันนาํ ยางจึงเกิดการสูญเสียสภาพ ซึงสงั เกตไดจ้ าก นาํ ยางจะค่อย ๆ หนืดขึน
เนืองจากอนุภาคของยางเริมจบั ตวั เป็นเมด็ เลก็ ๆ และจบั ตวั เป็นกอ้ นใหญ่ขึน จนนาํ ยางสูญเสียสภาพโดยนาํ
ยางจะแยกเป็น ส่วน คือ ส่วนทีเป็นเนือยาง และส่วนทีเป็นเซรุ่ม[ ] ดงั นนั เพือป้ องกนั การสูญเสียสภาพของ
นาํ ยางไม่ให้อนุภาคของเม็ดยางเกิดการรวมตวั กันเองตามธรรมชาติ จึงมีการใส่สารเคมีลงไปในนํายาง
เพือเก็บรักษานาํ ยางใหค้ งสภาพเป็นของเหลว โดยสารเคมีทีใชใ้ นการเก็บรักษานาํ ยางเรียกว่า สารป้ องกนั การจบั ตวั
(Anticoagulant) ได้แก่ แอมโมเนีย โซเดียมซลั ไฟด์ ฟอร์มาลดีไฮด์ เป็ นต้น เพือทีรักษานํายางไม่ให้เสีย
สูญเสียสภาพ
   199   200   201   202   203   204   205   206   207   208   209