Page 7 - วารสาร รพ.สุรินทร์ เล่ม 31
P. 7
“ใช้ยาสมเหตุผล แผลสด โดยบาดแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุภายใน 6 ชั่วโมง
ื
ี
ในลักษณะท่เป็นแผลต้นขอบเรียบ ท่มีการทาความสะอาด
�
ี
ไม่จน ไม่แพ้ ไม่ดื้อยา” บาดแผลอย่างถูกต้องและเหมาะสมแล้ว ไม่จาเป็นต้องได้รับยา
�
ปฏิชีวนะ ให้หมั่นดูแลท�าความสะอาดก็เพียงพอแล้ว
การใช้ยาปฏิชีวนะ ใน 3 โรค อย่างไม่เหมาะสมน้น ไม่เพียง
ั
แต่ส่งเสริมให้เกิดเช้อแบคทีเรียด้อยาเพ่มมากข้นเพียงอย่างเดียว
ึ
ิ
ื
ื
ู
ยังส่งผลต่อตัวผ้ป่วยเองอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแพ้ยาปฏิชีวนะ
รุนแรง (Steven Johnson Syndrome) ซึ่งในคนไข้บางราย
ยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) เป็นยาที่ส�าคัญในการต่อสู้กับ อาจแพ้ถึงข้นเสียชีวิตได้ และอีกท้งการรับประทานยาปฏิชีวนะ
ั
ั
ี
ี
�
ื
ี
�
�
ี
ี
ี
เช้อแบคทีเรียท่ทาให้เกิดโรคต่างๆ แต่ปัจจุบันพบว่า มีการใช้ยา นานๆ จะทาให้แบคทเรยดในลาไส้ตายและส่งผลให้แบคทเรย
ปฏิชีวนะท่มากเกินความจาเป็นในบางโรคท่ไม่จาเป็นต้องใช้ คลอสไทรเดียม ดิฟิซายล์ (Clostridium Difficile) ซ่งเป็น
ี
�
�
ึ
ี
ทาให้เกิดปัญหาตามมา ซ่งเป็นปัญหาท่สาคัญระดับโลก คือ แบคทีเรียท่ไม่ดีเจริญเติบโตข้นมาได้ ทาให้เกิดท้องร่วงอย่าง
�
ึ
ี
ี
�
ึ
�
ี
ื
ื
เช้อแบคทีเรียด้อยา โดยเกิดจากการได้รับยาปฏิชีวนะท่ไม่ รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
่
�
ื
ั
�
ื
เหมาะสมหรือการใช้ยาปฏิชีวนะนานๆ หรือพราเพร่อ ทาให้เช้อ โลกเรากาลังเข้าสู่ข้นวิกฤติทางด้านเช้อแบคทีเรียด้อยาเป็น
ื
�
ื
ี
ั
ั
้
ี
ี
ี
โรคแบคทเรยนนปรับตัวและมการพฒนาต่อการต่อต้านยา อย่างมาก หากพวกเรายังไม่ปรับเปล่ยนพฤติกรรม รับประทาน
ปฏิชีวนะ และส�าคัญที่สุดคือ เชื้อนั้นๆ สามารถแพร่กระจายไป ยาปฏิชีวนะพร�่าเพรื่อ ร้องขอยาปฏิชีวนะจากบุคลากรทางการ
ี
สู่ผู้อื่นได้ แพทย์ หรือแม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ ท่ยังให้ยาปฏิชีวนะ
ื
องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ปัญหาเช้อแบคทีเรียด้อยา เป็น อย่างไม่สมเหตุผล ในอนาคตเราจะไม่เหลือยาปฏิชีวนะไว้สู้กับ
ื
ี
ื
ปัญหาคุกคามใหม่ คร่าชีวิตประชากรโลกแต่ละปีสูงถึง 700,000 เช้อแบคทีเรียอีกต่อไป หากเจ็บป่วยด้วยโรคดังท่กล่าวมาแล้วนั้น
�
ุ
ั
�
ี
คน โดยปัจจบนประเทศไทย พบผ้เสยชวตจากเชอแบคทเรย เพียงแค่ปฏิบัติตัวตามคาแนะนาของบุคลากรทางการแพทย ์
ี
้
ู
ี
ิ
ื
ี
ดื้อยาในแต่ละปีอย่างน้อยปีละ 20,000-38,000 คน มากกว่า รับประทานยาตามอาการ พักผ่อนให้เพียงพอ ก็สามารถท�าให้
ึ
จ�านวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดและจากอุบัติเหตุ เราหายจากโรคภัยไข้เจ็บดังกล่าวโดยไม่ต้องพ่งยาปฏิชีวนะแล้วครับ
ี
ความเข้าใจผิดๆ ของประชาชนเก่ยวกับการใช้
ยาปฏิชีวนะ มักจะเกิดกับอาการเจ็บป่วย 3 โรค คือ “ไม่ร้องขอ ไม่เรียกหายาปฏิชีวนะครับ”
โรคหวัด โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และแผลสด ภก.ธีรัตต์ ทรัพย์โภค
โรคหวัด (Common Cold) ร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคหวัด เภสัชกรปฏิบัติการ
ื
เกิดจากเช้อไวรัส ไม่ได้เกิดจากเช้อแบคทีเรีย อาการท่พบ ได้แก่ งานเภสัชสนเทศ โรงพยาบาลสุรินทร์
ี
ื
ไข้ต�่าๆ มีน�้ามูก ไอ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถหายได้เองภายในเวลา
3-7 วัน ซ่งมักจะเกิดจากความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ 10 พฤติกรรม
ึ
ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาตามอาการ ที่มีส่วนทำาให้เชื้อดื้อยา
โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน เป็นภาวะความเจ็บป่วยที่พบ
ื
ึ
ได้บ่อย ซ่งสาเหตุอาจเกิดจากการติดเช้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว
และปรสิต ส่วนใหญ่อาการจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและสามารถ
หายได้เองภายใน 1-2 วัน โดยสิ่งที่ส�าคัญที่สุดคือ การทดแทน
ี
้
�
นาท่ร่างกายสูญเสียไป โดยใช้นาผงเกลือแร่ โดยโรคอุจจาระร่วง
�
้
เฉียบพลันนั้น ไม่จ�าเป็นต้องไปรับยาปฏิชีวนะร่วมด้วย ยกเว้น
็
ู
ื
็
ื
ี
กรณทถายเป็นมกเปนเลอดหรอเปนนา โดยพบว่าผปวยทไดรบ
ี
่
่
�
ี
่
ั
้
่
้
้
ู
ยาปฏิชีวนะบ่อยๆ มักจะทาให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงเพ่ม
ิ
�
มากขึ้นได้อีกด้วย
5

