Page 28 - วิจัยการใช้ประโยชน์ไม้สะเดา
P. 28
ิ
จาก Table 2 ตรวจพบกลุ่มสารฟลาโวนอยด์ กลัยโคไซด์ คูมารน กลัยโคไซด์แบบไม่ระเหย
ิ
ั
และโพลีฟีนอลในเนื้อไม้ เปลือกไม้ และใบของสะเดา ส าหรบแทนนนซึ่งเป็นสาระส าคัญในกลุ่ม โพ
ลีฟีนอลพบเป็นชนิด condensed tannin จากการตรวจพบกลุ่มสารส าคัญดังกล่าว แสดงว่าสะเดามีกลุ่ม
ั
้
สารออกฤทธิ์ทางเภสัช โดยกลุ่มสารฟลาโวนอยด์ กลัยโคไซด์ ใชรกษาโรค เชน เส้นเลือดฝอยเปราะ
่
้
่
ั
้
ิ
้
็
เป็นยาขับปัสสวะ ยาฆาแมลง ตานเชื้อรา แก้อักเสบ ตานเซลล์มะเรง เป็นตน ส าหรบคูมารน กลัยโค
ั
่
่
ไซด์ สามารถใชแตงกลิน เป็นยาเบื่อปลา สารป้องกันการแข็งตวของเลือด รบประทานป้องกัน
้
ั
ี
ั้
ั
ั
ี
์
ิ
ิ
แสงแดด ไหม้เกรยมผิวหนง (วีณา, 2534) ส าหรบแทนนนสามารถยบยงการเจรญของจุลินทรยได้
ั
(นิรนาม, 2554)
สรุปผล
ุ
1. วิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของเนื้อไม้ เปลือกไม้ และใบของต้นสะเดา อาย 16 ปี จาก
จังหวัดลพบุร พบว่าสะเดามีค่าความชื้น 6-10% โดยค่าการละลายในนารอนและค่าการละลายใน
้
ี
้
แอลกอฮอล์-เบนซีนของใบมีค่า 15.66% และ12.69 % ซึ่งมากกว่าเปลือกไม้(8.20-8.50%, 8.48-
ิ
10.19%)และเนื้อไม้ (2.36-2.50%, 6.25-6.72%) ดังนนใบสะเดาจึงมีปรมาณสารแทรกมากสุด และ
ั้
ิ
ิ
่
เปลือกมีปรมาณสารแทรกมากกว่าเนื้อไม้ และเนื้อไม้มีความทนทานตอเชื้อเห็ดรามากสุดปรมาณ
ื
ลิกนนในใบสะเดามีค่าสูง (38.92%) ส าหรับในเปลือกและเน้อไม้สะเดามีค่าใกล้เคียงกัน (30-32%)
ิ
และเนื้อไม้สะเดามีปริมาณเซลลูโลสสูงมาก (64-66%) และมีปริมาณเถ้าต่ ามาก (0.49-0.55%) เนื้อไม้
จึงเหมาะน ามาท ากระดาษ และท าเป็นไม้เชื้อเพลิงได้ดี และองค์ประกอบทางเคมีของไม้สะเดาท่อนที่ 1
และท่อนที่ 2 มีค่าใกล้เคียงกัน จึงสามารถน าไม้ท่อนที่ 1 หรือ ท่อนที่ 2 มาใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน
2. ตรวจพบกลุ่มสารฟลาโวนอยด์ กลัยโคไซด์ คูมารน กลัยโคไซด์แบบไม่ระเหย และ
ิ
โพลีฟนอลทั้งในเนื้อไม้ เปลือกไม้ และใบของสะเดา แสดงว่าสะเดามีกลุ่มสารออกฤทธิ์ทางเภสัช
ี
สามารถใช้เป็นยารักษาโรคได ้
่
3. การทราบองค์ประกอบทางเคมีและกลุ่มสารส าคัญของไม้ในแตละส่วนจะเป็นข้อมูลที่
ส าคัญในการน าไม้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสม
กิตติกรรมประกาศ
ั
ผู้วิจัยขอขอบคุณผู้ร่วมแผนงานวิจัยทุกท่าน คุณวสุธร มะลิเงิน และเจ้าหนาที่ส านกวิจัยและ
้
ี้
พัฒนาการป่าไม้ที่มีส่วนช่วยให้โครงการวิจัยนส าเร็จไปได้ด้วยดี
20

