Page 35 - วิจัยการใช้ประโยชน์ไม้สะเดา
P. 35
ิ
ิ
้
่
1.2 ผลการทดสอบความทนทานตามธรรมชาตของไม้สะเดาบรเวณส่วนตางๆ ของล าตน
้
่
้
้
ี
ได้แก่ ส่วนโคนตน ส่วนกลางตน และส่วนปลายตน จาก Table. 2 เมื่อเปรยบเทียบค่าเฉลียของ
เปอร์เซ็นต์การสูญเสียน้ าหนักเฉลี่ยของไม้ภายหลังถูกเชื้อราเข้าท าลาย พบว่าการสูญเสียน้ าหนักของไม้
้
ิ
่
้
ื่
ส่วนโคนตน (2.02%) และส่วนกลางตน (3.39%) ไม่มีความแตกตางกันทางสถิต ที่ระดับความเชอมั่น
่
95% โดยมีระดับการสูญเสียน้ าหนักระหว่าง 1–5% ไม้จึงมีความทนทานตอเชื้อราท าลายไม้ และมีอาย ุ
การใช้งาน 10-15 ปี ส่วนบริเวณปลายต้นมีการสูญเสียน้ าหนัก (10.38%) ในช่วง 5-10% ไม้จะมีความ
ี้
่
่
ทนทานปานกลาง มีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี ส าหรับเนื้อไม้ส่วนนมีความเสียงตอการถูกเชื้อรา
่
เข้าท าลายได้มากกว่าอีกสองส่วน หากมีปัจจัยที่เอื้ออ านวยตอการเจรญเตบโตของเชื้อรา ไม้จะแปร
ิ
ิ
สภาพจากมีความทนทานปานกลางเป็นไม้ที่มีสภาพ “ไม่มีความทนทาน”ได้ และอายุการใชงานจะลดลง
้
ั
้
ั
้
ั้
ิ
เหลือเพียง 2-5 ปี เท่านั้น นอกจากนน ยงพบว่าสัดส่วนการสูญเสียนาหนกของไม้บรเวณส่วนโคนตน:
ส่วนกลางต้น : ส่วนปลายต้น มีค่าเท่ากับ 1:2:5 ซึ่งสอดคลองกับการศกษาของ Englerth และ Scheffer
ึ
้
(1954) ได้รายงานว่า ความทนทานของไม้ redcedar บรเวณส่วนโคนตนและส่วนกลางตนจะมากกว่า
ิ
้
้
ุ
บริเวณส่วนปลายต้น เนื่องจากบริเวณโคนต้น มีส่วนของแก่นขยายเป็นวงกว้างตามอายของไม้ที่เพมขึ้น
ิ่
ั
ั้
ึ
นอกจากนน Thomas (1984) ได้ศกษากายวิภาคของไม้ชนสูง พบว่า ภายในเนื้อไม้จะมีการพฒนาของ
ั้
ู
เซลล์บริเวณเยอเจรญ (cambium) ในด้านความสูง และความโตของล าตน โดยมีการเจรญเป็นรปทรง
้
ิ
ื่
ิ
ิ
ิ
กรวยแหลม ซึ่งส่วนของกรวยแหลมจะเป็นเนื้อไม้ที่มีการพฒนาของการเจรญเตบโตตลอดเวลา เรยก
ี
ั
้
่
ี้
ส่วนนว่า Juvenile wood เป็นส่วนที่มีผนังเซลล์บาง ความหนาแนนนอย คุณภาพของเนื้อไม้จึงด้อยกว่า
็
ส่วนโคนล าตน ซึ่งเป็นบรเวณด้านฐานของกรวยแหลม เนื้อไม้มีการเจรญเตบโตเตมที่ (mature wood)
ิ
ิ
้
ิ
้
จึงมีแก่นมากกว่ากระพ ไม้จึงมีคุณภาพดี มีความทนทานมากกว่าส่วนปลายล าตน Scheffer และ
ี้
ุ
ู่
ั
Cowling (1966) รายงานว่า ไม้ที่มีอายมากจะมีส่วนของแก่น และสารแทรกกระจายอยตามผนงเซลล์
่
และชองว่างระหว่างเซลล์ ซึ่งสารแทรกตางๆ มีบทบาทเหมือนเป็นสารป้องกันรกษาเนื้อไม้ตาม
ั
่
ธรรมชาติ มีผลให้ไม้มีความทนทานมากขึ้น
26

