Page 109 - แฟ้มสะสมผลงาน2.63
P. 109

- ชวั่ โมงที่ ๒ -

       ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น
       ๑. สุ่มนักเรียนเล่าถึงการเข้าไปฝึกจิตในวัดหรือสถานธรรมต่างๆ ซ่ึงการฝึกจิตให้มีสมาธิ ไม่
วอกแวกหวนั ่ ไหว เป็นภาวะทจ่ี ติ แนบแน่นอยกู่ บั สงิ่ ใดสงิ่ หน่ึงนานๆ เป็นภาวะทจ่ี ติ มคี ุณภาพและสมรรถภาพ ซง่ึ
มลี กั ษณะสาคญั คอื แขง็ แรง มพี ลงั ราบเรยี บ สงบ สดใส เบกิ บาน อ่อนโยนไม่กระด้าง ไม่เครยี ด ไม่หวนั ่ ไม่ขุ่นมวั
ไม่สบั สน ไม่เร่ารอ้ นกระวนกระวาย จติ ท่มี ภี าวะเช่นน้ี ทางพระพุทธศาสนา ถือว่า “เป็นจติ ทเ่ี หมาะแก่การใช้
งาน” จะทาการสง่ิ ใดยอ่ มสาเรจ็ หรอื บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์
       ๒. นกั เรยี นยกตวั อยา่ งการบรหิ ารจติ โดยการตงั้ สมาธิ โดยทวั่ ไปมี ๒ ประเภท ไดแ้ ก่

           (๑) สมาธทิ ม่ี โี ดยธรรมชาติ เช่น เม่อื อ่านหนังสอื ใจจะจดจ่ออยู่กบั เร่อื งทอ่ี ่าน มคี วามสุขเพลดิ เพลนิ
สมาธชิ นดิ น้เี ป็นสมาธทิ ม่ี โี ดยธรรมชาติ แต่จะมหี รอื เกดิ ขน้ึ กเ็ ม่อื ตงั้ ใจเอาใจจดจ่อ เม่อื เลกิ ตงั้ ใจสมาธกิ จ็ ะไม่มี

           (๒) สมาธทิ ต่ี อ้ งพฒั นา คอื สมาธทิ เ่ี กดิ จากการปฏบิ ตั ติ ามวธิ ที ไ่ี ดร้ บั จากการฝึก สมาธชิ นิดน้ีเม่อื
ฝึกฝนแลว้ จะมพี ลงั มากกวา่ เดมิ สามารถนาไปใชใ้ นกจิ การต่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

       ขนั้ สอน (วิธีสอนแบบ Jigsaw)
       ๓. ครูอธบิ ายเน้ือหาการบรหิ ารจิตโดยใช้ส่อื วีดิทศั น์เปิดประกอบการเรยี น เพ่ือส่อื ความหมายง่ายข้นึ
โดยวธิ บี รหิ ารจติ ตามหลกั พระพุทธศาสนา วธิ บี รหิ ารจิตมีหลายวิธี ข้นึ อยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะเลอื กใช้วธิ ีใด
เชน่ เดยี วกบั การบรหิ ารร่างกาย บางคนอาจจะเลอื กวธิ อี อกกาลงั กายอย่างชา้ ๆ เช่น เดนิ ราตะบอง โยคะ แต่บางคน
อาจเหมาะกบั วธิ อี อกกาลงั อย่างเรว็ ๆ เชน่ วงิ่ แอโรบกิ ทาใบงาน ๙.๓
       ๔ ครอู ธบิ ายและสาธติ การสวดมนต์ และการสวดมนตแ์ ปล
       ๕. แบ่งกล่มุ นกั เรยี นตามความเหมาะสม ปฏบิ ตั กิ ารสวดมนตแ์ ปลตามทไ่ี ดเ้ รยี นมา
       ๖. นกั เรยี นจดั กลุ่มเป็นกล่มุ ย่อยๆ กลุม่ ละ ๔ คน แต่ละกลุ่มศกึ ษาการบรหิ ารจติ การสวดมนต์ และการ
สวดมนตแ์ ปล
       ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์

       ๗. นกั เรยี นร่วมกนั คดิ ความสาคญั ของการแผเ่ มตตา (การแผเ่ มตตา คอื การตงั้ ความปรารถนาดี
หรอื แผ่ความรสู้ กึ เป็นมติ รไปยงั เพอื่ นมนุษยแ์ ละอมนุษย์ทงั้ หลาย ไดแ้ ก่ เทวดา และสรรพสตั ว์ ใหม้ คี วามร่มเยน็
เป็นสุข จะใหเ้ กดิ ผลตอ่ การพฒั นาจติ ควรแผเ่ มตตาใหต้ นเองกอ่ น แลว้ จงึ แผ่เมตตาใหผ้ อู้ นื่ )

       ๗. ทดลองฝึกใหน้ ักเรยี นแผเ่ มตตาใหต้ นเอง และแผเ่ มตตาใหค้ นอน่ื ทาใบงาน ๙.๔

สื่อและแหล่งการเรียนรู้

       ๑. หนังสอื เรยี น วชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม ของบรษิ ทั สานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
       ๒. ใบงาน
       ๓. บนั ทกึ ความดี
       ๔. บตั รขอ้ ความ
       ๕. ส่อื PowerPoint วชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งและศลี ธรรม

หลกั ฐาน

       ๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม
       ๒. การเชค็ ชอ่ื เขา้ เรยี น
       ๓. บนั ทกึ ความดี
       ๔. บนั ทกึ พฒั นาการความดี
   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113   114