Page 58 - ชุดกิจกรรมอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
P. 58
58
เฉลยใบกิจกรรมที่ 2
กับการเกิดปฏิกิริยาเคม ี
1...จงอธิบำยกำรเกิดปฏิกิริยำโดยใช้ทฤษฎีจลน์ และกำรชนกันของอนุภำค
ทฤษฎีจลน์ อธิบำยได้ว่ำ ณ อณหภูมิหนึ่ง โมเลกลของแกสชนิดเดียวกนเคลอนทด้วยอตรำเรว
็
ั
ั
ี่
ุ
ื่
ุ
๊
ี่
ู
ี่
แตกต่ำงกน โมเลกลที่เคลอนทช้ำจะมีพลงงำนจลน์ต่ ำ สวนโมเลกลทเคลื่อนทเรวจะมีพลงงำนจลน์สง ถ้ำ
ุ
ื่
ุ
ั
็
ี่
่
ั
ั
ั
ั
โมเลกุลทมีพลงงำนจลน์สูงหรือมีอตรำเร็วสูงชนกัน พลังงำนที่เกิดจำกกำรชนก็จะมีค่ำสูงด้วย ถ้ำมีพลังงำนสูง
ี่
้
ิ
้
็
ึ่
ิ
ิ
ิ
ิ
็
พอกจะเกดกำรสลำยพันธะในสำรตั้งต้น แลวสรำงพันธะใหม่ขึ้นเป็นสำรผลตภัณฑ์ซงกคือ กำรเกดปฏิกรยำ
ิ
เคมี แต่ถ้ำโมเลกลทมีพลังงำนจลน์ต่ ำเกดกำรชนกนและพลงงำนมีค่ำไม่สูงพอกจะไม่เกิดปฏิกิรยำเคมีเกดขึ้น
ิ
ั
็
ั
ุ
ี่
ิ
ั
ิ
ั
ิ
ิ
ส่วนกำรชนกนของอนุภำคนั้น ปฏิกรยำเคมีเกดขึ้นได้เมื่ออนุภำคของสำรตั้งต้นชนกนในทศทำงที่เหมำะสม
ิ
รวมทั้งต้องมีพลังงำนที่เกิดจำกกำรชนกันอย่ำงน้อยที่สุดปริมำณหนึ่งซงเท่ำกับ พลังงำนก่อกัมมันต์
ึ่
2...จงอธิบำยกำรเกิดสำรประกอบเชิงกัมมันต์
็
ั
่
ั
อนุภำคทชนกนต้องมีพลงงำนจลน์รวมกนแลวมีค่ำอย่ำงน้อยเทำกบพลงงำนกอกมมันต์ ซงเปน
ั
้
ั
ั
ึ่
ี่
่
ั
พลังงำนต่ ำที่สุดที่ท ำให้เกิดปฏิกิริยำได้ ถ้ำมีพลังงำนต่ ำกว่ำนี้กจะไม่เกิดปฏิกริยำ แต่ถ้ำมีพลังงำนจลน์หลงกำร
็
ิ
ั
ั
ี่
ิ
็
ั
ั
ื
ชนมำกกว่ำหรอเทำกบพลงงำนกอกมมันต์ อนุภำคของสำรตั้งต้นทเข้ำชนกนกจะรวมตัวกนเกดเปน
่
่
ั
ั
็
สำรประกอบเชิงซ้อนกัมมันต์ (activated complex) ซึ่งสำรเชิงซ้อนนี้จะอยู่ตัวได้เพียงชั่วขณะ หลังจำกนั้นจะ
เปลี่ยนไปเป็นสำรผลิตภัณฑ์
ั้
้
่
3. จงบอกควำมหมำยของพลังงำนกอกัมมันต์ พรอมทงบอกชื่อเป็นภำษำอังกฤษและสัญลักษณ์ของพลังงำน
ก่อกัมมันต์
พลังงำนก่อกัมมันต์ หรือ พลังงำนกระตุ้น (Activation Energy : E ) คือพลังงำนจ ำนวนน้อยที่สุดท ี่
a
ิ
ท ำให้เกิดปฏิกริยำเคมีได้
ั
4...จงอธิบำยกำรเกิดปฏิกิริยำโดยพิจำรณำจำกค่ำพลงงำนก่อกัมมันต์
ิ
ั
ิ
ั
แต่ละปฏิกรยำเคมีจะมีพลงงำนกอกมมันต์ต่ำงกน ปฏิกรยำเคมีทมีค่ำพลงงำนกอกมมันต์ต่ ำ จะมี
่
ิ
ิ
ั
ี่
ั
ั
่
ู
ิ
่
อัตรำกำรเกดปฏิกรยำสูง ท ำให้ปฏิกริยำเกิดเร็วหรอเกดได้งำย และปฏิกริยำเคมีทมีค่ำพลงงำนก่อกมมันต์สง
ิ
ั
ิ
ี่
ิ
ั
ิ
ิ
ื
จะมีอัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำต่ ำ ท ำให้ปฏิกิริยำเกิดช้ำหรือเกิดได้ยำก
ิ
ิ
อัตราการเกดปฏิกริยาเคมี

