Page 62 - ชุดกิจกรรมอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี
P. 62

62


                                                      เฉลยใบกิจกรรมที่ 5

                                                                         ็
               1. เมื่อเผำผงเหล็กในอำกำศจะเกิดกำรลุกไหม้ทันที แต่ถ้ำเผำตะปูเหลกแทนผงเหล็ก ปฏิกิรยำจะเกิดขึ้นได้ช้ำ
                                                                                           ิ
               มำก เป็นเพรำะเหตุใด
                                            ั
                                                   ิ
                            ิ
                                         ็
                           ิ
                                                                    ี่
                                                                                              ั
                                                                                                  ั
                                                         ็
                                                               ิ
                                                                ิ
                       ปฏิกรยำระหว่ำงเหลกกบออกซเจนเปนปฏิกรยำทสำรตั้งต้นมีสถำนะแตกต่ำงกน อตรำกำร
                      ิ
                                                                                       ็
                                                                      ั
                                         ิ
                                  ั
               เกิดปฏิกริยำจึงขึ้นอยู่กบพื้นที่ผวของสำรตั้งต้น ผงเหล็กมีพื้นที่ผิวสมผัสมำกกว่ำตะปูเหลกที่มีมวลเท่ำกน จึงทำ
                                                                                                   ั

               ปฏิกิริยำกับแก๊สออกซิเจนได้เร็วกว่ำตะปูเหลก
                                                    ็
               2...แคลเซียมคำร์บอเนตท ำปฏิกริยำกบกรดไฮโดรคลอริก ดังสมกำร
                                          ิ
                                              ั
                              CaCO (s)  +  2HCl (aq)                  CaCl (aq)  +  H O (l)  +  CO (g)
                                                                                          2
                                   3
                                                                    2
                                                                              2
                                              ้
                                                                   ่
                  เมื่อใช้แคลเซียมคำร์บอเนตชนิดกอนและชนิดผงที่มีมวลเทำกนทำปฏิกิรยำกบกรดไฮโดรคลอริกอตรำกำร

                                                                              ิ
                                                                                 ั
                                                                     ั
                                                                                                   ั
               เกิดปฏิกิริยำเคมีจะแตกต่ำงกันหรอไม่ อย่ำงไร
                                           ื
                                                                             ิ
                       อัตรำกำรเกดปฏิกิรยำควรแตกต่ำงกัน เพรำะอตรำกำรเกดปฏิกรยำขึ้นอยู่กับพื้นทผวของสำรตั้งต้น
                                                                                           ี่
                                                                      ิ
                                                                            ิ
                                       ิ
                                ิ
                                                              ั
                                                                                             ิ
                                                                                              ั
               แคลเซียมคำร์บอเนตชนิดผงซึ่งมีพื้นที่ผิวมำกกว่ำจึงเกิดปฏิกิริยำได้เร็วกว่ำชนิดก้อนซงมีพื้นที่ผิวสมผัสน้อย
                                                                                    ึ่
                      ิ
                                                                                                      ั
               3. ปฏิกริยำระหว่ำงของแข็งและสำรละลำยชนิดหนึ่งซึ่งสำรมำรถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลำถ้ำต้องกำรท ำให้อตรำ
               กำรเกิดปฏิกิริยำเพิ่มขึ้นมำกที่สุดจะต้องท ำให้มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงไร
                       ก. เพิ่มปริมำตรของสำรละลำย          ข. เพิ่มควำมดัน
                       ค. ลดขนำดของของแข็ง                 ง. ถูกทั้ง ก และ ค
                                                                                         ิ
                                                                                ็
                                                                             ู
                                                                  ี
                                                  ิ
                                                         ุ
               4. ถ้ำเผำผงเหล็กในบรรยำกำศของออกซเจนจะลกไหม้ทันทแต่ถ้ำใช้ตะปเหลกแทนปฏิกริยำจะด ำเนินไปช้ำ
               กว่ำมำกทั้งนี้เพรำะ
                       ก. ผงเหล็กมีพื้นที่ผิวมำกกว่ำตะปูเหล็ก   ข. ผงเหล็กมีพลังงำนจลน์มำกกว่ำตะปูเหล็ก
                       ค. ตะปูเหล็กมีพื้นที่ผิวมำกกว่ำผงเหล็ก   ง. ตะปูเหล็กมีพลังงำนกระตุ้นสูงกว่ำผงเหล็ก
               5. จำกข้อมูลต่อไปนี้
                       1) ถ่ำนไม้เผำไหม้ในก๊ำซออกซิเจนได้เร็วกว่ำในอำกำศ
                       2) น้ ำตำลทรำยละลำยในกำแฟร้อนได้เร็วกว่ำกำแฟเย็น
                       3) น้ ำตำลก้อนละลำยน้ ำได้ช้ำกว่ำน้ ำตำลทรำยเมื่อมีมวลเท่ำกัน
                       4) ที่ควำมดันสูงก๊ำซเกิดปฏิกิริยำได้มำกกว่ำที่ควำมดันต่ ำ เมื่ออุณหภูมิคงท  ี่
                                                           ิ
               ข้อใดแสดงถึงผลของพื้นที่ผิวที่มีต่ออัตรำกำรเกิดปฏิกริยำ
                       ก. ข้อ 1 และ 2
                       ข. ข้อ 2 และ 3
                       ค. ข้อ 1 และ 3
                       ง. ข้อ 2 และ 4



                                                                                               ิ
                                                                                                    ิ
                                                                                      อัตราการเกดปฏิกริยาเคมี
   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66