Page 69 - หนังสือกฐินวัดโนนกุ่ม
P. 69
69
เกษตรกรส่วนใหญ่มีพื้นที่เฉลี่ยราว ๑๐-๑๕ ไร่ต่อครัวเรือน ควรแบ่งพื้นที่เพื่อการ
ทำาประโยชน์ดังนี้คือ สระน้ำาเพื่อใช้ในการเกษตร ๓ ส่วน นาข้าว ๓ ส่วน พืชไร่พืช
สวน 3 ส่วน และที่อยู่อาศัย เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักสวนครัว ถนน คันคูดิน หรือ
คูคลอง ๑ ส่วน รวมพื้นที่ทั้งหมด ๑๐ ส่วน
้
แนวคิดการสร้างชั้นนาประดิษฐ์
ำ
้
้
ปัญหาที่สำาคัญของการกักเก็บนำาในสระนำามี ๒ ประการคือ ชั้นดิน
้
้
้
ในบางพื้นที่ไม่สามารถอุ้มนำาไว้ได้ และการระเหยของนำาจำานวนมากในสระนำา
สู่ชั้นบรรยากาศ การแก้ปัญหาประการแรกคือการปรับพื้นผิวสระให้สามารถ
้
้
อุ้มนำาได้ ส่วนการแก้ปัญหาการระเหยของนำานั้นป้องกันได้ยาก เนื่องจาก
ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนและในบางแห่งมีอัตราการระเหยสูงถึง
้
ำ
๒๐๐ มิลลิเมตรต่อเดือน [๒] การนำานาลงไปเก็บใต้ดินถือเป็นวิธีการที่สามารถ
แก้ปัญหาการระเหยได้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวพระราชดำาริเรื่อง การใช้ประโยชน์
้
้
ทดนตามแนวทฤษฎใหม เกษตรกรสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่สระนำาให้เป็นชั้นนำา
ี
่
่
ี
ิ
้
ใต้ดินประดิษฐ์ที่มีความพรุนสูงเพื่อกักเก็บนำา และพื้นที่ด้านบนสามารถนำามาใช้
ประโยชน์ได้ด้วย
้
ำ
โครงสร้างชั้นนาใต้ดินประดิษฐ์
้
ิ
ชั้นนาใต้ดนประดิษฐ์สามารถสร้างได้โดยใช้ทรายความพรนสูงผสมซเมนต์
ี
ุ
ำ
้
[๓] และปูพื้นผิวสระนาเดิมด้วยแผ่นพลาสติกกันซึม (Geomembrane) ในบริเวณ
ำ
ระหว่างรอยต่อระหว่างชั้นดินทรายซีเมนต์และชั้นดินเดิมดังแสดงในรูปที่ ๑
แผ่นพลาสติกกันซึมโดยท่วไปแล้วเป็นวัสดุสังเคราะห์ท่ผลิตจากอุตสาหกรรม
ั
ี
ปิโตรเคมี เช่น HDPE (High Density Polyethylene) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายใน
้
ำ
การปรับปรุงผิวของก้นบ่อนาและบ่อกักเก็บของเสีย [๔] พื้นที่ด้านบนสามามรถใช้
ประโยชน์สำาหรับการเพาะปลูกได้ โดยมีแผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) แทรกอยู่
ระหว่างชั้นหน้าดินสำาหรับเพาะปลูกและชั้นดินทรายเพื่อป้องกันดินเม็ดละเอียด
้
้
ในชั้นหน้าดินแทรกตัวลงไปอุดตันในชั้นนำาใต้ดิน พื้นที่บริเวณขอบของชั้นนำา
้
้
ำ
ำ
ใต้ดินประดิษฐ์เป็นพื้นที่รับนาจากธรรมชาติ เช่น นาฝน เป็นต้น
มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล

